ถือโอกาสตั้งกระทู้ซะเลยนะครับ
ส่วนตัวผมเองยอมรับเลยครับว่ายังไม่รู้ ขอให้ท่านผู้รู้ช่วยอธิบาย
ให้กระจ่างทีครับ เผื่อเป็นความรู้สำหรับเพื่อนๆพี่ๆในคลับเราที่ยัง
ไม่รู้ว่ามันคืออะไร ทำหน้าที่ยังไง ขอบคุณล่วงหน้าครับ
ถือโอกาสตั้งกระทู้ซะเลยนะครับ
ส่วนตัวผมเองยอมรับเลยครับว่ายังไม่รู้ ขอให้ท่านผู้รู้ช่วยอธิบาย
ให้กระจ่างทีครับ เผื่อเป็นความรู้สำหรับเพื่อนๆพี่ๆในคลับเราที่ยัง
ไม่รู้ว่ามันคืออะไร ทำหน้าที่ยังไง ขอบคุณล่วงหน้าครับ
ชิมท้ายราง คืออะไร มาฟังกันก่อน
1.ในรางคอมมอลเรลนั้น จะมีเซนเซอร์วัดแรงดันน้ำมันอยู่
ถ้าน้ำมันมาแรงเกิน ก็จะปล่อยออกนอกราง ให้ไหลกลับถัง โดยมี คูลเลอร์ ลดความร้อนก่อนกลับสู่ถัง
(แล้วจะไปต้มน้ำมันทำไมฟะ)
2.กรณีแรงดันมากเกินที่ระบบตรวจสอบเจอ โปรแกรมจะสั่งให้เครื่องยนต์ดับ เพื่อรักษารางไม่ให้เสียหาย
รวมไปถึงชุดหัวฉีดด้วย
3.การเพิ่มแรงดัน (ดันราง) ส่งผลให้ข้อมูลเชิงกล (แมคคานิก) มีแรงดันสูงมากขึ้น
แต่การใส่กล่องดันราง เป็นการหลอกให้กล่องหลักทราบว่า แรงดันไม่ถึง ก็เพิ่มแรงดันเข้าไปอีก
พอเซนเซอร์ท้ายรางจับได้ ก็สั่งให้เครื่องยนต์ดับ ทำให้การดันรางของท่าน ไม่เต็มประสิทธิภาพ
4.การทำชิมท้ายราง คือการไปรองแผ่นชิมที่ตัวเซนเซอร์ เพื่อหลอกให้รู้ว่า แรงดันที่ส่งมานั้น
ยังไม่มากเกินไป ทำให้เราสามารถดันรางจ่าย เข้าไปเพิ่มได้อีกมากอยู่ ส่งผลให้ การดันรางด้วยกล่องนั้น
ทำงานได้เต็มที่ สามารถเพิ่มแรงฉีดจ่ายน้ำมันได้เป็นฝอยละเอียดมากขึ้น (ส่งผลถึงความประหยัด)
และความแรงที่ได้มา (ระดับ 60-70 ตัวขึ้นไป) ไฟเช็คเครื่องยนต์ไม่ขึ้น ขับได้สนุก
5.ข้อเสียของการทำชิมท้ายรางคือ ถ้าทำอย่างเดียว ไม่ได้ทำอะไรกับแรงดันเพิ่ม ไม่ได้ส่งผลอะไรครับ
แค่แรงดันน้ำมัน อาจมากกว่าสเปกนิดหน่อย ส่งผลด้านจิตใจมากกว่าความแรง
6.การทำชิมแล้วดันมาก ส่งผลให้ระบบรางจ่าย (ปั๊มคอมมอนเรลและตัวหัวฉีดรวมถึงรางจ่าย)
ต้องรับภาระมากขึ้น สึกหรอเร็วขึ้น (ยิ่งดันมาก ยิ่งแรง ยิ่งประหยัด ยิ่งสึกหรอ ความร้อนสูง)
-ชุดปั๊มสร้างแรงดัน จะทำงานเต็มที่ตลอด (ทำงานหนัก เนื่องจากรางจ่ายน้ำมันแรง)
-ชุดหัวฉีด จะเกิดความร้อนสูงมากขึ้น เพื่อฉีดจ่ายน้ำมันให้หนักหน่วง ดันมากรูเล็ก หัวละลายไหม้ได้เหมือนกัน
-ชุดรางจ่าย มีแรงดันสูง อาจเกิดความเสียหายได้ ถ้าทำอย่างขาดสติ
แค่นี้พอครับ
คิดดูก่อนทำ
ระหว่างความแรงกับความสึกหรอ
ความปลอดภัยกับความสนุก
ความมันส์กับควันดำ
คิดให้ดีก่อนการตัดสินใจครับ
งั้นแสดงว่า ถ้าทำก็เสี่ยงกับรถพังได้เหมือนกัน อันตรายมากกว่าได้
ใช่เปล่าครับน้า นุ๊ก
ขอบคุณน้านุ๊กที่ให้ความรู้ครับ
รถที่ดันรางจ่ายมาแล้ว ควรทำชิมท้ายรางด้วยครับ
เนื่องจากเราต้องการให้กล่องมีประสิทธิภาพสูงสุดครับ
แต่มันต้องหาจุดที่พอดีครับ (นั่นก็คือตัวเราเอง)
สำหรับผมแล้วคิดง่ายๆครับ ว่า ช้าเร็วก็ต้องพัง (แต่เราจะดูแลเขาให้ดีที่สุด)
และอีกข้อก็คือ รถเราไม่ได้แรงที่สุดในโลกครับ (แต่งยังไง เราก็ไม่ใช่ที่สุด)
ฉะนั้น หาจุดที่เราจะพอ และเดินไปตามฝันครับ
เข้ามาลับสมอง
ทำไมต้องทำ ... อ่านๆไปเดี๋ยวก็หายงง
1.รถเรามีแรงดันรางสูงสุดที่ 180 Mpa แต่แรงดันจริงที่ใช้งานประมาณ 150-160 MPA
ถ้าเราดันรางจ่ายไปสัก 10-15% ก็เอา 150X15%=172.50 Mpa เซนเซอร์ตรวจเจอ ก็ยังปล่อยผ่าน
เพราะเซนเซอร์ตัวนี้ เป็นแบบกลไกไงครับ
2.การดันประมาณ 10-15% มันก็ได้ความแรงมาแบบหน่อมแน้ม ไม่คุ้มเงินที่เสียไป (หัวอกคนจ่ายเงิน)
เพราะมันยังเพิ่มความสามารถได้อีกประมาณ 5 เท่าตัว ชิมท้ายรางนั้นช่วยได้ ราคาไม่แรง ก็ไปทำกันดิ
3.พอทำแล้วตามสูตรแต่ละสำนัก เจ้าตัวเซนเซอร์กลไก ค่ามันเปลี่ยนไปจากการรองชิม
คราวนี้ โปรแกรมกล่องใหม่ ดันไปสัก 30-40% จะได้ประมาณ 210 Mpa โดยที่เซนเซอร์ไม่ตัด
เพราะว่า เราได้รองชิมเพิ่มความหนาไปแล้ว ค่าสปริงมันก็เปลี่ยนไป มันอ่านยังไง ก็ยังไม่ได้ถึง 180 Mpa
ก็ปล่อยให้ปั๊ม สร้างแรงดันไปเรื่อยๆ จนถึงโปรแกรมที่เราหลอกไว้ เท่านั้นเอง
เพราะหลักการของคอมมอนเรล ยิ่งดันมาก ยิ่งแรง น้ำมันเป็นฝอยละเอียดมากขึ้น ทำให้เครื่องยนต์
เผาไหม้สมบูรณ์ ประหยัดน้ำมัน (ถ้าเท้าไม่หนักจนเกินไป)
ตามแต่สำนักครับ ส่วนมากถ้าแต่งรถหรือใส่กล่องกับเขา เจ้าสำนักจะมีของแถม
1.อุดอีจีอาร์ 2.ทำชิมท้ายราง
กรณีที่ไม่ได้ทำมาก่อน และอยากทำ ก็ราคาเบาๆ ที่เคยได้ยินมาก็ 500 บาท
บางที่ 1000 บาท เพราะไทรทัน มันถอดยากที่สุดครับ (เลยต้องเสียตังค์)
ทำแล้ว ต้องโปรแกรมกล่องใหม่ ให้หนักขึ้น
เพราะเห็นว่าน้าขับไม่ค่อยสนุก หลังทำแล้ว จะมีอะไรดีดี ขึ้นครับ
การแต่งรถมีความเสี่ยง ผู้แต่งควรหาข้อมูลให้ดีก่อนการตัดสินใจครับ
เยี่ยมครับ
สำหรับรถที่ใส่กล่อง อีเลคทรอนิกส์มาทั้งหลายแหล่ รวมถึงจอ RV ด้วยนะครับ
ผลที่ได้ จะเพี้ยนไปตามการหลอกของกล่องแต่งนะครับ
เช่น .... ถ้าท่านใส่กล่องดันรางมา
1.อัตราสิ้นเปลืองบนจอ RV จะกินต่ำจนนาตกใจในระดับ 30 กว่ากิโลเมตรต่อลิตร
2.Range ของน้ำมัน หนึ่งถัง วิ่งได้ พันกว่าโล
3.ในสมาร์ทเกจ ค่า FRP จะต่ำกว่าความเป็นจริงเป็นเท่าตัว
4.ควรใช้เกจแบบอนาล๊อกครับ ที่ไม่ผ่านการประมวลผลจากกล่องหลักหรือ OBD II ครับ
สาเหตุที่เพี้ยน เพราะกล่องหลักโดนหลอกครับ
กระทู้ดี แวะมาดันหน่อยครับ
คืิอว่าผมยังข้องใจอยู่ว่า ลงแกรม 3.2 มาทำชิมท้ายรางจะแรงขึ้นไหมหรือว่าแรงเท่าเดิม อะครับ
น้านุ๊กผมลงกล่อง เกียร์ 2 ควันดำเป็นลูก เกียร์3ลากดำน้อย เกียร์4 ดำบางๆ ไม่เขก เครื่องดึงตอน 2000 รอบ ยังไม่เคยวัดว่าวิ่งเท่าไร แต่ดึงดีคับ อยากถามทำไมควันดำ
1.การทำชิมท้ายราง เหมาะสำหรับรถดันรางมาแล้ว
2.รถที่ทำทั้งชิมท้าย และดันราง ถ้ายกหัวฉีด และเปลี่ยนหัวฉีดแล้ว ต้องทำเพิ่มอีก
3.สำหรับข้อ 2 คือการทำปั๊มคอมมอนเรลเพิ่ม เพื่อให้สร้างแรงดันได้ทันเวลา ไม่มีดรอป
เยอะครับ
เอาบ้านก็ โบเดิม อินเตอร์เดิม ดัน ยก ชิม คลัตช์ พอแล้ว
บูท 24 ปรับบูทมือ
ในขณะนี้มี 1 ท่านดูกระทู้อยู่. (0 สมาชิกและ 1 ผู้เยี่ยมชม)
Bookmarks