จากกระทู้นี้ http://www.fortuner-club.com/index.p...=;topic=7898.0
แต่เดิมผมติดกล่อง Uniship เป็บแบบเพิ่มแรงดัน Commonrail ซึ่งใช้งานได้ปกติทุกอย่างมาเป็นเวลาประมาณ 3 ปี
พอครบ 100,000 กม. รู้สึกว่ารถอืดขึ้น จึงได้ไปทำความสะอาดท่อไอดี อินเตอร์
แล้วก็อุด EGR และ รองแหวนรางคอมมอนเรล
จากนั้นก็ไปจูนกล่องอีกรอบ โดยทำ MAP เอาไว้ 3 แบบคือ
เพิ่มแรงดัน+เทอร์โบ+คันเร่งไฟฟ้า เพิ่มแรงดัน+เทอร์โบ และเพิ่มแรงดันอย่างเดียว
บูสท์เพิ่มไว้ไม่มากแค่ 18 ปอนด์เท่านั้น
หลังจากอุด EGR กับจูนกล่องใหม่
ก็พบว่า บางจังหวะจะขึ้น ENGINE CHECK ขึ้นมา
ทำให้เทอร์โบถูกตัดการทำงาน เครื่องยนต์ไปที่รอบเดินเบา
ต้องจอดข้างทางเพื่อดับเครื่อง เคลียร์โค้ด แล้วสต๊าทใหม่จึงจะไปต่อได้
มักจะเกิดเมื่อเดินทางยาวๆ ในจังหวะเร่งเครื่องที่เกียร์ 4 ความเร็วประมาณ 80 กม.
และเป็นเฉพาะตอนเริ่มวิ่งยาวๆ เท่านั้น
แต่ไม่ได้เป็นบ่อยมากจนกระทั่งขับไม่ได้
หลังๆ นี้เริ่มเป็นหนักขึ้นเรื่อยๆ จนชักจะไม่ไหว
เมื่องาน Toyota Rally ผมได้ขอให้อาจารย์มนัสช่วยเอาเครื่อง Consult เช็คให้
หลังจากวิเคราะห์รถแล้ว อาจารย์แนะนำว่าให้เอา "ตัวอุด EGR" ออก
เพราะน่าจะเป็นตัวการให้ ENGINE CHECK ขึ้น
และเมื่อวันเสาร์อาทิตย์ที่ผ่านมา ENGINE CHECK ขึ้นบ่อยมากๆ จนผมไม่สามารถทนต่อไปได้อีก
จึงจะนำรถไปถอด EGR ออกเพื่้อดูว่าจะหายจริงหรือไม่
จึงได้ปรึกษากับพี่เสว ได้ข้อมูลที่เป็น "ความจริง" อันน่าสนใจ
ผมจึงตัดสินใจว่าจะเข้าไปที่ "ธนศิริดีเซล" ซึ่งเป็นศูนย์ของ DENSO เพื่อที่จะเช็คทั้งระบบ
หาสาเหตุของการขึ้น ENGINE CHECK
ทำไมต้องไปธนศิริดีเซล เพราะว่ามีเครื่อง Consult ที่สามารถเช็คโดยไม่ต้องเดา ช่างชำนาญ
มีชุดซ่อมเทอร์โบครบ สามารถถ่วงเทอร์โบได้ ทดสอบการทำงานของ VN ได้ ฯลฯ
วันเดียวผมจบงานได้ และผมเคยไปดูการทำงานที่นี่มาแล้วครั้งหนึ่ง
ตอนนี้เทอร์โบขงอสมาชิกในคลับจำนวนมากถูกส่งมาซ่อมที่นี่ละครับ
พอเข้าไปอาจารย์หัวหน้าช่างด้านเทอร์โบก็มาถามอาการและการปรับแต่งรถของเราทั้งหมด
จากนั้นก็เอาเครื่อง Consult มาวิเคราะห์ ดูค่าต่างๆ ทั้งหมด
ใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 30 นาที ก็มาแจ้งผมว่า อาการที่ผมเป็นเกิดจาก VN ทำงานผิดปกติ
(ซึ่งไม่น่าเกี่ยวกับ EGR ใช่ไหมครับ)
และ EGR ทำงานผิดปกติ (เพราะผมไปอุดมา)
ผมเลยบอกอาจารย์ว่า ให้รื้อเทอร์โบออกมาดํ พร้อมทั้งระบบ EGR ด้วย
ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงในการรื้ออุปกรณ์ทั้งหมดอย่างเรียบร้อย
จากนั้นก็เอาเทอร์โบไปรื้อแล้วตรวจสอบทีละชิ้น
อาจารย์ให้ดูเทอร์โบของผมเทียบกับของใหม่ ยังอยู่ในสภาพที่ดีมาก ใช้งานได้อีกนาน
รวมทั้งแบริ่งกับแกนมีการสึกน้อยมากๆ จากการใช้น้ำมันเครื่องที่ดีเปลี่ยนถ่ายตามเวลา
โชคดีที่เทอร์โบของผมยังไม่เป็นอะไร (เพราะอุด EGR มาไม่นานมาก)
ทุกอย่างทำงานปกติ แต่โข่งเทอร์โบมีอาการติดเล็กๆ จึงปรับแต่งทำความสะอาด
แล้วประกอบ ทดสอบทุกอย่างเรียบร้อย
ประกอบกลับ เอาตัวอุด EGR ออก
จากนั้นก็ไปทดสอบ
ปรากฏว่า จังหวะที่ ENGINE CHECK ขึ้นแน่ๆ ก็ไม่ขึ้นเลย ทำอย่างไรก็ไม่ขึ้น
เหยียบปล่อยๆๆๆๆๆ (ปกติครั้งที่ 2 ก็ขึ้น) ในทุกช่วงความเร็ว จนคันหลังมันจะด่าแม่เอา ก็ยังไม่ขึ้น
ถ้าเป็นช่วงก่อนนี้ก็ขึ้นไปเรียบร้อยหลายรอบแล้ว
มาถึงปัญหาที่ว่า ทำไม EGR ทำให้ ENGINE CHECK ขึ้นแล้วเทอร์โบพัง
ผมก็พึ่งทราบจากทาง "ธนศิริดีเซล" ว่า
การอุด EGR ทำให้เกิดความร้อนสะสมที่เทอร์โบสูงมาก
ยิ่งถ้าขับเร็วลากรอบ ใช้แรงดันเทอร์โบสูง
ความร้อนที่สะสมสามารถทำให้โลหะที่ทำใบเทอร์โบและVN เกิดการเสียรูปได้เลย
รวมทั้งไอ้เสียจะเกิดประกายไฟกัดกร่อนใบเทอร์โบจนแหว่งได้
มีรถ "STANDARD" เดิมๆ ที่ไม่ได้ติดกล่องอะไรทั้งนั้น แต่ไปอุด EGR แล้วเทอร์โบกร่อนหลายคันมากๆ เข้ามาซ่อม
ประเภทว่า ถ้าเจอเทอร์โบกร่อน สามารถบอกได้เลยว่า รถคันนั้นไปอุด EGR มา
ซึ่งเป็นเช่นนั้น 100% เต็มๆ
ข้อมูลใหม่อีกอันนะครับ สำคัญมากๆ
ที่เราอุด EGR เพราะคิดว่าจะทำให้เครื่องสกปรก โดยเฉพาะท่อไอดีจะมีก่อนเหนียวๆ จับเป็นก้อนๆ
แท้จริงแล้ว ก้อนเหนียวเกิดจากการที่ไอเสียเข้าไปผสมกับ "ฝุ่น" ที่เกิดจากกรองอากาศสกปรก มีฝุ่นเข้าไปได้มาก
จะทำให้เกิดก้อน และกร่อนใบไอดี
จะพบกับรถที่ใช้กรองเปลือย ส่วนพวกใช้กรองมาตรฐานและทำความสะอาดสม่ำเสมอจะเป็นแค่คราบไอเสียบางๆ เท่านั้น
(ของผมตอนล้างก็เป็นแค่คราบบางๆเท่านั้น เพราะเป่ากรองทุก 2000-3000 กม.)
ดังนั้น แนะนำว่า
1.ถ้าไม่อยากให้เทอร์โบพังไว อย่าอุด EGR และขยันทำความสะอาดกรองอากาศ
2. ใช้กรองอากาศคุณภาพสูง(กรองฝุ่นได้ไม่น้อยกว่ากรองมาตรฐาน)
3. ความเชื่อ อาจสวนทางกับความจริง
สำหรับใครที่จะอุด EGR ก็ไตร่ตรองให้ดีนะครับ ส่วนพวกที่อุดแล้ว จะทำอย่างไร ก็แล้วแต่ท่านจะพิจารณา
รถเป็นของท่าน ค่าซ่อมก็ของท่านด้วยเช่นกัน
Bookmarks