นายกฤตภาส มุกดาประเสริฐ หัวหน้าฝ่ายตรวจสภาพรถ กรมการขนส่งทางบก เปิดเผยว่า ตามที่กรมการขนส่งทางบก ออกประกาศกำหนดให้รถยนต์ที่เปลี่ยนประเภทเชื้อเพลิง โดยก๊าซ แอลพีจี หรือซีเอ็นจี ต้องแจ้งเปลี่ยนกับกรมการขนส่งทางบก ภายใน 15 วัน นับตั้งแต่วันที่ 1 ส.ค. 2551 เป็นต้นไป ปรากฏว่า มีประชาชนแห่นำรถมายื่นเรื่องขอเปลี่ยนประเภทเชื้อเพลิงจำนวนมาก เฉลี่ย 1,500-2,000 คันต่อวัน จากเดิมมีรถมาขอแจ้งเปลี่ยนประมาณ 200-300 คันต่อวันเท่านั้น เพราะกลัวจะมีความผิด ทำให้สถานที่ตรวจสภาพไม่เพียงพอ จากเดิมกำหนดไว้ 2 ช่อง ขณะนี้เปิดให้รถเข้าตรวจสภาพได้ทุกช่อง และให้รถแท็กซี่ย้ายจุดไปตรวจสภาพร่วมกับรถโดยสารสาธารณะ เพิ่มให้เวลาบริการตั้งแต่เวลา 07.30 น. จนกว่ารถจะหมด และเริ่มให้บริการตรวจสภาพวันเสาร์เฉพาะรถทั่วไป เริ่มวันที่ 26 ก.ค. นี้ ส่วนรถแท็กซี่ เริ่มวันที่ 2, 16 ส.ค. และวันที่ 6, 20 ก.ย. 2551 นายกฤตภาสกล่าวว่า สำหรับรถที่มาตรวจสภาพ ปัญหาส่วนใหญ่ที่พบก็คือ หนังสือรับรองการเปลี่ยนเชื้อเพลิงของวิศวกรไม่ถูกต้อง บางรายถูกถอนใบอนุญาตไปแล้ว แต่เจ้าของรถยังใช้ใบ รับรองฉบับนั้นมายื่นเรื่อง นอกจากนี้ ระยะห่างการติดถังก๊าซจากท้ายรถน้อยกว่าที่กำหนดไว้คือ 35 ซม. ส่วนตัวถังก๊าซที่นำมาติดตั้งทรงแคปซูล ปัจจุบันมีมาตรฐาน มอก. ยกเว้นถังโดนัท ยังไม่มีการรับรอง รถจักรยานยนต์ที่เปลี่ยนใช้ก๊าซขณะนี้ยังไม่มีการรับรอง และยังไม่มีรถมาแจ้งเรื่องแต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม ขอประชาสัมพันธ์ให้เจ้าของรถที่จะนำรถมาตรวจสภาพเปลี่ยนแปลงการใช้ประเภทเชื้อเพลิง สามารถยื่นเรื่องแจ้งเปลี่ยนได้ที่กรมการขนส่งทางบกทุกแห่งทั่วประเทศ สำหรับรถที่ติดตั้งถังก๊าซแอลพีจี และเอ็นจีวี ก่อนวันที่ 1 ส.ค. 2551 หากไม่มาแจ้งเปลี่ยนภายใน 15 วัน ซึ่งจะครบกำหนดวันที่ 16 ส.ค. เนื่องจากติดวันหยุด จะเริ่มมีผลตั้งแต่วันที่ 19 ส.ค. ส่วนรถที่ติดตั้งวันที่ 1 ส.ค. หากไม่มาดำเนินการจะมีโทษปรับตั้งแต่วันที่ 18 ส.ค. อัตราโทษปรับ 1,000 บาท.
อ้างอิืงจาก....http://www.thairath.co.th/news.php?s...&content=98522
Bookmarks