ที่มา ก็ตามรูปภาพ นะครับ
ที่มา ก็ตามรูปภาพ นะครับ
แจ๋วเลยครับน้า ผม ขาดทุนมาหลายรอบแล้วครับ
ขอบคุณมากเลยครับ เห็นภาพชัดเจนเลย
มันก็ใช้นะแต่ไมทั้งหมดซื้อรถมาทำงานหละครับ หุหุ
ไร้สาระ ประโยชน์จากรถที่คุณซื้อมาไม่มีปรากฎเลยหรอ เช่น ค่าเสี่ยงภัยจากรถสาธารณะ (ชีวิตคุณมีค่าเท่าไร เด็กแว๊น เด็กตีกัน ยิงบนรถ รถสาธารณะขับเร็ว เมาแล้วมาขับ แท็กซี่พาไปข่มขืน) แค่ 1 ครั้งที่คุณรอดมาจากเรื่องพวกนี้ได้ ผมว่า เงินเท่าไรก็ชดเชยเปรียบเทียบกันไม่ได้หรอกครับ ถูกหรือแพง ขาดทุน หรือกำไร ขึ้นอยู่กับความคุ้มค่าที่ได้รับถ้าคุณ ok ชีวิตคุณมีค่ามากกว่าเงิน...คือความปลอดภัย ผมว่าคุ้มมากสำหรับผม ปฎิเสธไม่ได้ว่า ต้องจ่ายเพิ่ม แต่อีกมุมมองนึงก็ปฏิเสธไม่ได้ว่ารถนำพาสิ่งดีๆ เข้ามาในชีวิต มากมายครับ...
แก้ไขครั้งล่าสุดโดย god-army : 22-08-2012 เมื่อ 10:20
มองต่างมุม ทำให้ได้แง่คิดอีกหลายมุม ชอบๆๆ คับ
ฟันธงเลยหรอครับว่าไร้สาระ แค่มองต่างมุมน่ะ
งั้นถ้าแบบนี้ล่ะ ชีวิตเรามีค่ามากกว่าใคร
ขับรถไปชนเด็กแว๊นเข้า
เด็กตีกันใกล้รถเราแล้วโดนรถเรา
ยิงบนรถแล้วรถเราดันไปจอดคู่แล้วโดนลูกหลง
รถสาธารณะขับเร็วมาชนรถเรา
เราเมาแล้วดันขับรถ
ล้อเล่นครับไม่จริงจัง อยากบอกว่าว่าง ๆ มีไรให้คิดเล่นเยอะแยะอย่าซีเรียสมากนัก
อย่างน้อยผมก็ชอบตารางค่าใช้จ่ายเมื่อเรามีรถใช้
เอาน่า ขำๆ แชร์กัน ผมชอบ ความคิดแปลกดีในอีกมุมมอง ซึ่งเป็นไปได้จริง เพียงแต่อีกมุมม มองที่น้าๆหลายท่านด้านบนกล่าว ไม่ได้ถูกกล่าวถึง มันก็อยู่ที่ความจำเป็นและไม่จำเป็นส่วนบุคคล เพื่อนผมคนนึงหน้าที่การงานฐานะดี(เรื่องจริงเลยนะ) แต่งงานมีครอบครัว ทำงานที่เดียวกันกับเมียเขาและผม เมื่อ 5 ปีก่อน เขาไม่มีรถยนต์ ไม่มีมอเตอไซด์ มีแค่จักรยานคันเดียว เขาก็ปั่นไปทำงานเช่าห้องหักเล็กๆใกล้บริษัท 4 ปีที่ผมรู้จักเขา ปั่นจักรยาน จนเมียท้องได้ลูก 1 คน ปัจจุบันโตแล้วเห็นรูปในเฟส และลาออกจากงานไปอยู่บ้านนอกแล้วทำงาน 4 ปีเก็บเงิน ซื้อ ควาย ให้ที่บ้านต่างจังหวัดเลี้ยงไว้ร่วม 20 กว่า ตัว คูนตัว ละ 20000 เข้าไปครับ ที่นาอีกหลายสิบไร่ แต่เขามีแค่จักรยานคันเดียว ส่วนผม เริ่มงานพร้อมๆเขา ผมมีมอไซ 1 เก๋ง 1 ขายแล้ว เอาไทรทันมา จนจะขายอีกแล้วไปดาวคันใหม่ แต่ผมไม่มีทรัพสินมากมายแบบเขาถ้าเทียบกันคงไม่ถึงครึ่ง นี่แค่ 4-5 ปีที่ผ่านมาเองนะครับ และมันเป็นเรื่องจริง ที่น้าๆอาจจะหวัเราะเยาะว่า เพื่อนผมคนนี้ปั่นจักรยานซ้อนเมียไปทำงานตั้งแต่ไม่รู้ตัวว่าท้อง จน ถึงวันที่ลาคลอดอะครับ
สังคมออนไลน์ มันมีทั้งบวกทั้งลบ เก็บแต่สิ่งที่ควรเก็บ จำแต่สิ่งที่ควรจำ ไม่ดี ไม่เวิคก็อย่าไปทำตามแค่เราพยายามค้นหาสิ่งดีๆที่คนทำเค้าพยายามสื่อให้ฟังเท่านั้นเอง จะได้มากได้น้อยก็อยู่ที่ตัวคุณเอง ครับ
มองต่างมุมครับ...ที่ผมบอกว่าไร้สาระผมมีตัวอย่างนึงจะยกตัวอย่างให้ฟัง
ผมทำงานเป็นพนักงานบริษัทเอกชน เงินเดือนไม่เยอะครับ ตอนแรกๆขับรถมอเตอร์ไซไปทำงาน ก็ถนนลื่นขับล้มบ้างตกหลุมบ้าง (เกิดจากผมขับไม่ระวัง)จึงตั้งใจเก็บเงินดาวน์รถยนต์ซักคันเพื่อแลกกับความปลอดภัยบนท้องถนน และเหตุการสำคัญที่ผมไม่เคยลืม แยกสุขุมวิท เด็กนักเรียนไล่ยิงคู่อริบนรถเมย์ พลาดเป้าไปโดน แมสเซนเจอร์ ของบริษัทนึงซึ่งจอดอยู่อีกฝั่ง (ดีที่ไม่เสียชีวิต)ผมก็อยู่ในพื้นที่แถวนั้นด้วย ผมจึงต้องซื้อรถยนต์เพื่อความปลอดภัย หัวหน้าผมก็ ว่าผมบ่อยๆครับ ซื้อรถมีแต่ลด สมชื่อล่ะ ลดอย่างเดียวค่าโน่นค่านี่ สารพัดที่แกจะหยิบยก หัวหน้าผมนั่งแท็กซี่มาทำงาน+รถไฟฟ้า ไปกลับวันนึงประมาณ 200-300 ครับ ผ่านไป 5 ปี หัวหน้าผมก็ยังคงมาทำงานด้วยรถแท็กซ๊่และ รถไฟฟ้า ส่วนผมและพนักงานคนอื่นๆ ขับรถมาทำงาน แรกๆก็เหนื่อยส่งรถครับ พอครบ 5 ปี ส่งหมด สรุป ทรัพย์สิน ลูกน้อง พนักงานท่านอื่นๆ มีรถยนต์ หัวหน้าผมยังคงนั่งรถไฟฟ้าและ แท็กซี่ ตอนนี้หรอครับ ซื้อรถแล้ว ครับ... ก็มัวแต่มองข้อเสียข้อดีมีเยอะครับ
เข้าท่า วุ้ย...
เรื่องเก็บเงินซื้อควายก็ โดนใจดี..
ใครที่มีกำลังทรัพย์พอจะหาความสุขความสบายก็ซื้อเถอะครับ....ชีวิตคนเราไม่ได้อยู่ค้ำฟ้าแน่นอน.....อยากได้อยากมีสนองความต้องการเราไปโลดดดดดดดดดดด.......อย่าเสียดาย...โลกเรากำลังเปลี่ยนแปลงโดยที่เราไม่ทันตั้งตัวเสมอครับอะไรก็เกิดขึ้นได้....รีบหาความสุขใส่ตัวและครอบครัวเราดีกว่าครับผม....
ไม่เห็นไร้สาระเลยอ่ะครับ
ก็แค่เป็นการแจกแจงรายจ่าย+ความคุ้มทุน+แนวคิดให้คนอื่นได้รับรู้ ผมว่าก็ได้ประโยชน์ดีโดยเฉพาะกับคนที่กำลังเล็งๆจะซื้อรถเพราะนโยบายรถคันแรก
แจกแจงส่วนที่เป็นเม็ดเงินที่เห็นได้เทียบหลายๆทางเลือกก็เรื่องปกติของการลงทุน ส่วนเม็ดเงินเรื่องความปลอดภัยความสบายใจนั้นไม่สามารถตีเป็นมูลค่าได้ครับกรณีนี้ไม่น่าเอามารวม
ตอนผมซื้อรถก็คิดประมาณนี้แหละครับ จับคู่เงินดาวน์กับระยะเวลาและดอกเบี้ยให้สามารถผ่อนประมาณเดือนล่ะ 10,000 บาท (ประมาณว่าไงๆก็ไม่เดือดร้อน)
เงินสดที่เหลือเอาไปลงทุน ดอกเบี้ยรถ 2% ต่อปี ผมลงทุนสนุกๆก็ได้ 10-15% ต่อปี แล้วทำไมต้องเอาเงินไปซื้อสด จริงไหมครับ ?
[QUOTE=rangsun;759190]ฟันธงเลยหรอครับว่าไร้สาระ แค่มองต่างมุมน่ะ
งั้นถ้าแบบนี้ล่ะ ชีวิตเรามีค่ามากกว่าใคร
ขับรถไปชนเด็กแว๊นเข้า
เด็กตีกันใกล้รถเราแล้วโดนรถเรา
ยิงบนรถแล้วรถเราดันไปจอดคู่แล้วโดนลูกหลง
รถสาธารณะขับเร็วมาชนรถเรา
เราเมาแล้วดันขับรถ
ล้อเล่นครับไม่จริงจัง อยากบอกว่าว่าง ๆ มีไรให้คิดเล่นเยอะแยะอย่าซีเรียสมากนัก
อย่างน้อยผมก็ชอบตารางค่าใช้จ่ายเมื่อเรามีรถใช้
ตามนั้นครับ 555
ดันๆครับหลากหลายมุมมอง ดีครับทุกความคิดเห็นมีประโยชน์ครับ แม้แต่ นาฬิกาตาย ยังเดินตรงเวลาถึงวันละ 2 ครั้ง
หากคิดเห็นไม่ตรงขออภัย มา ณ โอกาศนี้
รถเราไม่ใช่รถหุ่มเกราะ ถ้ากระสุนมาทางเราต่อให้อยู่ในยุโรปราคาหลายร้านก็เจ็บตายได้เหมือนกัน ไม่เฉพาะมอเตอร์ไซค์ การมีรถถ้าเราเอามาใช้งานมาค้าขายให้เกิดรายได้เข้ามาถือว่าเป็นการลงทุนที่คุ้มค่ามาก เพราะนอกจากทำมาหากินได้แล้ว ยังทำให้เราสะดวกสบายด้วย กันแดดกันฝนยามไปทำธุระ แต่ถ้าซื้อมาเพื่ออยากสบายอย่างเดียวถ้าไหวไม่เดือดร้อนใครก็มีได้ แต่ถ้าเงินเดือนน้อยนิดไม่พอค่าบำรุงรักษา ต้องไปหยิมยืมคนอื่น ใช้บริการสาธารณะดีกว่า
ผมให้ถูกทุกข้อครับ
ในขณะนี้มี 1 ท่านดูกระทู้อยู่. (0 สมาชิกและ 1 ผู้เยี่ยมชม)
Bookmarks