อาการปวดท้องมักจะเกิดขึ้นอยู่เสมอ |
|
| |
| แต่ส่วนมากเราจะไม่ค่อยรู้สาเหตุว่าปวดเพราะอะไร ทนได้ก็ทน
| แต่ถ้าทนไม่ได้ถึงจะกินยาแก้ปวด |
| มูลนิธิหมอชาวบ้านจึงให้คำแนะนำว่า หน้าท้องแข็งเป็นดาน กดแล้วเจ็บ
| หรือกดแล้วท้องยุบลงไป แต่|
| เจ็บทันทีที่ปล่อยมือ มีไข้ หนาวสั่น คลื่นไส้ อาเจียนเป็นเลือด อุจจาระมีสีดำ ปัสสาวะไม่ออกหรือ |
| ถ่ายเป็นเลือด หน้าซีด เป็นลม ตัวเย็น เหงื่อออก ไม่รู้สึกตัว เบื่ออาหาร น้ำหนักลด ตัวเหลือง |
| อ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย หรือข้อใดข้อหนึ่ง ต้องรีบไปหาหมอทันที |
| |
| เราสามารถแบ่งบริเวณที่ปวดท้องได้เป็น 9 ส่วน คือ |
| |
| 1. ชายโครงขวา คือตับและถุงน้ำดี |
| อาการที่พบมักจะกดแล้วเจอก้อนแข็งร่วมกับอาการตัวเหลือง ตาเหลือง ซึ่งสันนิษฐานเบื้องต้นได้|
| ว่า อาจเป็นโรคเกี่ยวกับตับหรือถุงน้ำดี เช่น ตับอักเสบ ฝีในตับ ถุงน้ำดีอักเสบ |
| |
| 2. ใต้ลิ้นปี่ คือ กระเพาะอาหาร ตับอ ่ อน ตับ และกระดูกลิ้นปี่ |
| - ปวดเป็นประจำเวลาหิวหรืออิ่ม อาจเป็นโรคเกี่ยวกับกระเพาะ |
| - ปวดรุนแรงร่วมกับคลื่นไส้อาเจียน อาจเป็นโรคตับอ่อนอักเสบ |
| - คลำเจอก้อนเนื้อค่อนข้างแข็งและมีขนาดใหญ่ อาจหมายถึงตับโต |
| - คลำได้ก้อนสามเหลี่ยมแบนเล็กๆ มักเป็นกระดูกลิ้นปี่ |
| |
| 3. ชายโครงขวา คือ ม้าม ซึ่งมักจะคลำเจอก้อนเนื้อบริเวณนี้ |
| |
| 4. บั้นเอวขวา คือท่อไต ไต ลำไส้ใหญ่ |
| - ปวดร่วมกับถ่ายอุจจาระผิดปกติหรือถ่ายเป็นเลือด อาจเป็นเพราะลำไส้ใหญ่อักเสบ |
| - ปวดร้าวถึงต้นขา อาจเป็นนิ่วในท่อไต |
| - ปวดร่วมกับปวดหลัง มีไข้ หนาวสั่น ปัสสาวะขุ่น อาจเป็นกรวยไตอักเสบ |
| - คลำเจอก้อนเนื้อ อาจเป็นไตโตผิดปกติหรือเนื้องอกในลำไส้ใหญ่ |
| |
| 5. รอบสะดือ คือ ลำไส้เล็ก มักพบในโรคท้องเดินหรือไส้ติ่งอักเสบ |
| (ก่อนจะย้ายมาปวดท้องน้อยขวา) แต่ถ้าปวดแบบมีลมในท้อง ก็อาจเป็นเพราะกระเพาะลำไส้ทำงาน|
| ผิดปกติ |
| |
| 6. บั้นเอวซ้าย คือ ท่อไต ไต ลำไส้ใหญ่ (เหมือนข้อ 4) |
| |
| 7. ท้องน้อยขวา คือ ไส ้ ติ่ง ท่อไต และปีกมดลูก |
| - ปวดเกร็งเป็นระยะ ร้าวมาที่ต้นขา อาจเป็นเพราะมีก้อนนิ่วในกรวยไต |
| - ปวดเสียดตลอดเวลา กดแล้วเจ็บมาก มักเป็นไส้ติ่งอักเสบ |
| - ปวดร่วมกับมีไข้สูง หนาวสั่น มีตกขาว มักเป็นเพราะปีกมดลูกอักเสบ |
| - คลำแล้วเจอก้อนเนื้อ อาจเป็นก้อนไส้ติ่งหรือรังไข่ผิดปกติ |
| |
| 8. ท้องน้อย คือ กระเพาะปัสสาวะและมดลูก < B R> - ปวดเวลาถ่ายปัสสาวะหรือถ่ายกระ |
| ปริบกระปรอย มักเป็นเพราะกระเพาะปัสสาวะอักเสบ หรือนิ่วในกระเพาะปัสสาวะ |
| - ปวดเกร็งเวลามีประจำเดือน เป็นอาการปวดประจำเดือน แต่ในรายที่ปวดเรื้อรังในหญิงแต่ง |
| งานแล้วไม่มีบุตร อาจเป็นเนื้องอกในมดลูก |
| |
| 9. ท้องน้อยซ้าย คือ ปีกมดลูกและท่อไต |
| - ปวดเกร็งเป็นระยะและร้าวมาที่ต้นขา มักเป็นนิ่วในท่อไต |
| - ปวดร่วมกับมีไข้ หนาวสั่น ตกขาว เป็นเพราะมดลูกอักเสบ |
| - ปวดร่วมกับถ่ายอุจจาระผิดปกติ อาจเป็นเพราะลำไส้ใหญ่อักเสบ |
| - คลำพบก้อนร่วมกับอาการท้องผูกเป็นประจำ อาจเป็นเนื้องอกในลำไส้.
10. กลางท้องค่อนมาทางส่วนล่าง (Warning) คือ ลำไส้ใหญ่ (ข้อนี้อันตรายที่สุดเพราะเราจะเป็นกันทุกวัน ต้องรักษาสุขภาพอย่าให้เกิด)
- ปวดหน่วง ๆ ไม่รุนแรงเป็นระยะ ๆ อาจเป็นเพราะอึแข็งตัวเป็นเวลานานหลายวัน
- ปวดหน่วง ๆ รุนแรง อาจเป็นเพราะอึเหลว
- ปวดจื๊ด ๆ เหงื่อแตก มือเท้าหงิก สิ่งของต่างๆ ขวางหูขวางตา อาจเป็นเพราะอึสลายตัวไม่จับเป็นก้อน เดินทางไกลต้องระวังนิดนึง
Bookmarks