เป็นที่ทราบกันดีว่า รถยนต์สมัยใหม่ มีเซนเซอร์ในการตรวจจับการทำงาน ของอุปกรณ์
ต่าง ๆของรถยนต์ เพื่อให้การทำงานของรถยนต์มีประสิทธิภาพสูงสุด ลดมลพิษ ภาระแวดล้อมเป็นพิษ
และป้องกันเครื่องยนต์ และอุปกรณ์ต่าง ๆ ไม่ให้ทำงานเกินภาวะสูงสุด และต่ำสุด
ดังเราจะเห็นได้ว่า ช่างจะตรวจสอบรถยนต์ ต้องใช้คอมพิวเตอร์ตรวจดู ช่างภายนอกทั่วไปซ่อมไม่ได้แล้ว
โดยเซนเซอร์จะส่งค่ากลับมาเป็นค่าแรงดันไฟฟ้า ในแต่ละช่วงต่าง ๆ กัน โดยโปรแกรมมาแล้ว ว่าแต่ละค่า
หมายถึงอะไร เช่น การสั่งจ่ายน้ำมัน ขึ้นอยู่กับเซนเซอร์ในท่อร่วมไอดี เซนเซอร์แรงดันอากาศ เซนเซนร์การไหล
ของอากาศ และอื่น ๆ ให้ ECU ประมวลผล แล้วชดเชยค่าตามตาราง MAP(โปรแกรมที่เราๆ ท่าน ๆ ไปลงกัน)
ในแต่ละภาวะการขับขี่ ให้เหมาะสมกับภาวะการทำงาน ณ ช่วงเวลานั้น
ไฟฟ้าที่เราใช้ในรถยนต์มาจาดไดร์ทชาร์ท เป็นไฟฟ้ากระสลับ
ปริมาณกระแส ขึ้นอยู่กับรอบของเครื่องยนต์ แต่ละรอบก็มีความถี่แตกต่างกัน มาชาร์ทแบตเตอรรี่
ซึ่งเหล่านี้เป็นสาเหตุที่มารบกวนการทำงานของอุปกรณ์ต่างๆ นั่นเอง
จึงเป็นที่มาของอุปกรณ์ตัวนี้ คือ โวทล์เตท สเต็บบิไรเซอร์ หรือ อุปกรณ์รักษาสภาพแรงดันไฟฟ้า
อุปกรณ์ที่ใช้ทำ
1. คาปาซิเตอร์ ขนาดความจุ 10000 uF 16 v จำนวน 10 ตัว
2.คาปาซิเตอร์ ขนาดความจุ 4700 uF 16 v จำนวน 10 ตัว
3.คาปาซิเตอร์ ขนาดความจุ 1000 uF 16 v จำนวน 4 ตัว
4.คาปาซิเตอร์ ขนาดความจุ 470 uF 25 v จำนวน 4 ตัว
5.คาปาซิเตอร์ ขนาดความจุ 0.47 uF 63 v จำนวน 4 ตัว
ความจุรวมทั้งหมด 152881.88 uF หรือ 0.152 F
6. กล่องกันน้ำ
7. ฟิวส์ ขนาด 20 Amp
8. สายไฟ สำหรับแบตเตอรี่ ขนาด 8 มม. สีดำ สีแดง อย่างละ 1 เมตร
รวมค่าวัสดุอุปกรณ์ เกือบ 820 บาท ครับ
เอามาจากเวบนอกครับ
การทำงานของอุปกรณ์
1. ต้องการรักษาสภาพแรงดันไฟฟ้า ทั้งระบบ ให้ไฟฟ้าคงที่ สม่ำเสมอมากขึ้น
2. กรองความถี่ต่าง ๆ ของแต่ละรอบของเครื่องยนต์ จากไดชาร์ทออกไป เพื่อตัดสัญญาณรบกวน
ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ
1.การจ่ายไฟฟ้า ไม่สะดุด การกระตุกหายไป เครื่องยนต์ทำงานดีขึ้น เพราะเซนเซอร์ส่งข้อมูลแม่นยำมากขึ้น
2.การชดเชยความเร็วรอบของเครื่องยนต์ เวลาแอร์ทำงานและตัดการทำงาน มีความสัมพันธ์กันมากขึ้น
3.การชดเชยการฉีดน้ำมัน เวลาการไดชาร์ททำงาน มีความสัมพันธ์กันมากขึ้น ด้วยเหตุนี้จึงประหยัดน้ำมันขึ้น
Bookmarks