ใช้PLUS 4doors a/t vg trubo จำเป็นต้องบรรทุกของน้ำหนักประมาณ 400-600กิโลกรัม แต่ระยะทางไม่ไกล ประมาณ 50กิโล
จะต้องเสริมพวกแหนบหรือโช๊ค อะไรเพิ่มหรือไม่คับ
ใช้PLUS 4doors a/t vg trubo จำเป็นต้องบรรทุกของน้ำหนักประมาณ 400-600กิโลกรัม แต่ระยะทางไม่ไกล ประมาณ 50กิโล
จะต้องเสริมพวกแหนบหรือโช๊ค อะไรเพิ่มหรือไม่คับ
50 โลเอง สบายๆ ครับ
ไม่ต้องเสริมอะไรทั้งนั้น เติมลมล้อเพิ่มหน่อยก็พอ หลังประมาณซัก 60+- ปอนด์
บ่อยแค่ไหน ครับ ระยะ 50 km เด๋วแหนบจะล้า ถ้าไม่บ่อยก็ได้ครับ เพราะได้ 600 โล
เปลี่ยนโช๊คยาวหน่อยก็ดีครับเวลาลงหลุมมันกระแทกครับหรือเป็นรถผมคนเดียวหว่า แต่เปลี่ยนโช๊คแล้วก็ไม่มีอาการกระแทกเวลาบรรทุกลงหลุม 400-500 โล
น่าจะค่อนข้างบ่อยคงประมาณ 3-4-5 ครั้งต่ออาทิตย์
รบกวน จขกท.ลองสังเกตุระยะยุบของแหนบค่ะเวลาบรรทุกด้วยน้ำหนักที่ว่า(600กก.) ตรวจสอบดูระยะยุบว่าเหลือเท่าไหร่จะติดยางกันกระแทก นั่นแหละค่ะคือคำตอบ สมมุติว่าเหลือไม่ถึงนิ้วกับระยะทางที่ต้องบรรทุกสินค้าไปยังจุดหมาย จขกท.คงจะรู้สภาพถนนผกีกว่าใครๆว่าเป็นเช่นไร ระยะนิ้วนึงที่เหลือถ้าขับไม่เร็วทางเรียบตลอดในระหว่างเดินทางอาจเกิดการยันตัวหรือกระแทกกันได้บ้างเป็นปกติสำหรับยางกันกระแทกกับเพลา ช๊อคแค่ช่วยการทรงตัวค่ะแต่ไม่สามารถต้านน้ำหนักกดได้ การใช้ช๊อคยาวกับการบรรทุกนอกจากจะกระแทกเพราะช๊อคยัน(ช๊อคมีอาการยุบตัวน้อยและมีแรงต้านจาดารกระแทก)อายุการใช้งานของช๊อคนั้นก็จะสั้นไปด้วยค่ะ...........ขอให้มีความสุขกับการเซ็ทรถนะคะ ทุกอย่างมีทางออกค่ะ
แก้ไขครั้งล่าสุดโดย rmd : 11-08-2012 เมื่อ 00:13
ลองแบบนี้ก็ดีครับติดตั้งง่ายๆปรับแต่งหนักเบาได้เลิกใช้ไปจ้างก็ถอดเก็บ
http://www.thaitritonclub.com/forum/...ad.php?t=35328
ของผมไม่ใช่ plus นะ แต่ 4 ประตู เคยบรรทุกเงาะมาแล้ว 400-600 โล วิ่งประมาณ 50 โล ได้ เติมลงยางสัก 45-50 ครับ สบายๆ ผมซัดไปเป็น 100 อิอิ เดิมๆ
กรรม ผมบรรทุกตันกว่า ระยะทาง 30 กม.
แล้วรถผมจะเป็นอะไรมั้ยเนี่ย
รอคำตอบด้วยครับ
เพิ่งขนของ 600 - 800 kg มาเอง น้ำหนักของไม่รวมคน ทุกอาทิตย์ อาทิตย์ละ 2 - 3 ครั้ง นึกว่าขนได้ วิ่ง 150 กิโล แล้วรถผมจะเป็นไรมัยเนี่ย ลมแค่ 32/40 เอง
ขึ้นชื่อว่าแหนบมีดีเรื่องความทนทานค่ะ สมมุติว่าจขกท.บรรทุกจนแหนบแอ่นจนเพลายันกับยางกันกระแทกซึ่งและฝืนวิ่งด้วยเพราะภาระเฉพาะตัวบังคับ ความเสียหายทีอาจจะเกิดขึ้นก็เริ่มจาก ยางกันกระแทกทรุด แหนบล้า ช๊อคคตและรั่ว(จริงๆระยะบั๊มสต๊อปของยางกันกระแทกกับเพลาจะน้อยกว่าสโตรคของช๊อเสมอ) ซึ่งการฝืนวิ่งด้วยน้ำหนักเกินมาตรฐานรับดังกล่าว ระยะยุบไม่มี แก้มยางจึงยืดยุบตลอดเวลาตามการกลิ้งตัวขณะเคลื่อนที่ ถ้าโชคดีระยะทางถึงจุดหมายไม่ไกลกอปรยางติดรถยังสดก็อาจจะเจอปัญหาแค่แก้มยางเปื่อยในหรือแตกลายงาด้านนอก นานวันหรือยางเก่านานก็เสี่ยงกับกาตะเบิด ถ้าเติมลมมากๆเพื่อต้านทานการยุบตัว ยางก็จะเต้นส่งผลให้รถกระแทก(เพลา+ยางกันกระแทก+ช๊อค+โตงเตง)ซึ่งเสี่ยงอันตรายจากการควบคุมรถที่ยากขึ้น ถ้าจำเป็นต้องบรรทุกน้ำหนักมากๆอย่างต่อเนื่อง ควรเพิ่มประสิทธิภาพการรับน้ำหนักของตับแหนบและช๊อคอัพไปด้วยพร้อมๆกับเลือกยางที่เหมาะสม
โดยปกติน้ำหนักลงเพลาท้ายโดยไม่เกินกำลังสำหรับพิคอัพอย่างเราไม่ควรเกิน1000กก.ถ้าไม่ดัดแปลงหรือเสริมแหนบ ส่วนยางดึได้จากน้ำหนักสึงสุดที่รับได้ ซึ่งระบุน้ำหนักสูงสุดไว้ที่แก้มยางหรือปรึกษาตัวแทนจำหน่ายก็ได้ค่ะ.............ขอให้มีความสุขกับการทำรถนะคะ
ตายละหว่า.. ผมก็พลัส 4 ประตู ที่ตัดสินใจไม่ซื้อรถเก๋งก็เพราะลาออกจากงานบริษัทมาเป็นเกษตรกร
เคยขนปุ๋ยกระสอบละ 50 กิโลกรัม จำนวน 10 กระสอบมาแล้วรอบนึง มีพวกน้ำยาด้วยอีก 3 ลัง
ลมยางก็ไม่ได้เติม เพิ่งรู้ว่าซื้อรถกระบะเดิม ๆ มาแล้วบรรทุกหนักไม่ได้ >//<
ด้วยความยินดีค่ะ..........กระบะในบ้านเราเรียกตามปริมาณบรรทุกว่า"กระบะ1ตัน"ซึ่งวิศวกรผู้ผลิตออกแบบให้เพลาท้ายมีกำลังรับน้ำหนักโดยไม่เสียหายที่1000กก,หรือ1ตัน(แต่โดยมากอย่าที่เรารู้ๆกันว่า เราสามารถบรรทุกเกินจากที่กำหนดไว้ โดยรวมเรียกทั้งหมดค่ะ ตั้งแต่หัวเดี่ยว-แคปตัวเตี้ย(4x2)-4ประตูตัวเตี้ย(4x2)-แคปตัวสูง(4x2)- 4ประตูตัวสูง(4x2)-แคปตัวสูงขับเคลื่อน4ล้อ(4x4)-และ4ประตูตัวสูงขับเคลื่อน4ล้อ(4x4) ถ้าเราจะสังเกตุให้ดีกระบะขนาดนี้นิยมแพร่หลายไปทั่วโลกยกเว้นอเมริกาเหนือที่นิยมรถกระบะเอนกประสงค์ที่มีขนาดที่ใหญ่กว่าในบ้านเรา เช่นโตโยตาทรุนดาเป็นต้น
ซึ่งน้ำหนักที่ใช้เรียกประเภทรถกระบะนี้มาจากกำลังรับที่ตกลงที่เพลาโดยไม่เสียหาย(ใช้งานปกติ) แต่โดยมากเราก็ยังเห็นความสามารถขนวัสดุที่มีน้ำหนักมากๆกันอยู่จนชินตา ถ้าจะถามว่าเป็นอะไรไหมก็คงอย่างที่กล่าวในคอมเมนต์ก่อนหน้าหล่ะค่ะ บางคนก็ใช้บรรทุกหนักเกินโดยไม่เป็นอะไร บางคนก็ไม่สามารถใช้ได้ตามปกติ ที่เป็นเช่นนั้นก็คงแตกต่างตามปัจจัยแวดล้อมค่ะ ซึ่งที่กล่าวมา พูดในประเด็นช่วงล่างเดิมรับน้ำหนักมากกว่า1ตันนะคะ ยังมีการเสริมประสิทธิภาพชุดแหนบ ช๊อคอัพ เพลาท้าย แคสซีให้สามารถรับน้ำหนักได้มากยิ่งขึ้น ดังเห็นได้จาก รถขนผัก รถขนของในภาคขนส่ง บางคันเปลี่ยนเพลาจนสามารถรับน้ำหนักได้มากกว่า4ตัน แต่ก็นั่นแหล่ะค่ะ สำหรับการดัดแปลงบางคันก็บรรทุกจนเกินกำลังจนแคสซีงอหรือหักก็เห็นอยู่บ่อยๆค่ะ
ที่พิมพ์มาซะยาวไม่ใช่ว่า เจตนาจะขัดคอหรือชี้นำอะไรนะคะ แค่อยากแชร์ประสบการณ์ที่มีผ่านความเป้นจริงโดยใช้เทคโนโลยีวิศวกรรมพื้นฐานที่เราสัมผัสได้ง่ายๆเป็นเครื่องอ้างอิงในข้อมูลและเข้าใจในแนวทางเดียวกัน สามีหลงทางมาก็เยอะโดนกดหัวโดนเขกกระโหลกก็บ่อย เฉียดตายก็เคยมี เลยขอเอาประสบการณ์ดังกล่าวมาเล่าสู่กันฟังค่ะ..........ขอให้มีความสุขกับการทำรถนะคะ
ในขณะนี้มี 1 ท่านดูกระทู้อยู่. (0 สมาชิกและ 1 ผู้เยี่ยมชม)
Bookmarks