ช่วยอ่านให้จบนะคะ....แล้วเลือกว่าจะทำอย่างไหน...
ในวันสุดท้ายก่อนวันคริสต์มาส ฉันรีบไปยังซุปเปอร์มาร์เก็ต
เพื่อซื้อของขวัญที่ฉันไม่ได้ซื้อไว้แต่เนิ่นๆ
เมื่อฉันเห็นผู้คนทั้งหมดที่นั่น ฉันก็เริ่มบ่นกับตัวเอง...
ฉันคงต้องเสียเวลาเป็นชาติที่นี่แน่ๆ ฉันควรไปที่อื่นดีกว่า
คริสต์มาสนี่ทำให้รู้สึกแออัด และน่ารำคาญขึ้นทุกๆ ปีจริงๆ
สิ่งที่ฉันอยากจะทำคือ เอนตัวลงนอนแล้วก็หลับไป และตื่นขึ้นมาเมื่อเวลานี้ผ่านพ้นไปแล้วจริงๆ
แต่ถึงยังไงฉันก็ยังไปที่แผนกของเล่น
และฉันก็เริ่มหัวเสียเกี่ยวกับราคาของมันและแปลกใจว่า
เด็กๆเนี่ยเล่นของเล่นที่แพงขนาดนี้เชียวหรือ
ขณะที่กำลังเดินดูของอยู่ในแผนกของเล่นนั้น
ฉันสังเกตุเห็นเด็กผู้ชายตัวเล็กๆ คนหนึ่ง อายุประมาณ 5 ขวบ กำลังอุ้มตุ๊กตาไว้แนบกับอก เขาค่อยๆ ลูบผมของตุ๊กตานั้น และมองดูอย่างเศร้าสร้อย
ฉันสงสัยว่าเด็กผู้ชายคนนี้จะเอาตุ๊กตาไปให้ใครกัน
เด็กผู้ชายคนนั้นหันไปหาหญิงชราที่อยู่ข้างๆ
'คุณย่าแน่ใจหรือฮะ... ว่าเงินของผมมีไม่พอ'
หญิงชราตอบว่า 'หลานก็รู้นี่ว่าหลานมีเงินไม่พอที่จะซื้อตุ๊กตาตัวนี้หรอก'
หลังจากนั้นหญิงชราก็บอกให้เขารออยู่ตรงนั้นประมาณ 5 นาทีระหว่างที่เธอจะไปเดินดูรอบๆ
แล้! วเธอก็จากไปอย่างรวดเร็ว เด็กชายยังคงอุ้มตุ๊กตาอยู่ในมือ
ในที่สุดฉันก็เริ่มเดินเข้าไปหาเขา
ฉันถามเค้าว่า...เค้าจะเอาตุ๊กตาตัวนั้นไปให้ใคร?
มันเป็นตุ๊กตาที่น้องสาวของผมชอบที่สุดฮะ
และเธอก็อยากจะได้มันมาก...เป็นของขวัญวันคริสต์มาส
เธอมั่นใจมากว่าซานตาคลอสจะให้ตุ! ๊กตาตัวนี้แก่เธอ'
ฉันบอกเค้าว่า ซานตาคลอสจะให้ตุ๊กตานี้แก่น้องสาวของเขาแน่ๆ
และก็ไม่ต้องกังวลหรอก
(มาถึงตรงนี้ นึกหละสิครับว่า เรื่องนี้ จะเหมือนกับเรื่องปกติทั่วๆไปที่คุณเคยอ่าน เดาผิดแล้วหละครับ ลองอ่านต่อสิครับ...)
แต่เขาตอบฉันด้วยท่าทางเศร้าสลดว่า
'ไม่หรอกฮะ ซานตาคลอสไม่สามารถเอาตุ๊กตานี้ไปให้เธอในที่ๆ เธออยู่ตอนนี้ได้
ผมจะเอาตุ๊กตาตัวนี้ไปให้แม่
แม่จะได้เอาตุ๊กตานี้ไปให้เธอเมื่อแม่ไปที่นั่น'
ดวงตาของเขาเศร้ามากขณะที่เขาพูดต่อไป
'น้องสาวของผมไปอยู่บนสวรรค์แล้ว
พ่อบอกว่าแม่ก็จะไปเหมือนกันในเร็วๆนี้
ผมก็เลยคิดว่าแม่น่าจะเอามันไปให้น้องสาวของผมได้'
หัวใจของฉันเกือบจะหยุดเต้น เด็กชายเงยหน้ามองฉันแล้วพูดว่า
'ผมบอกพ่อให้บอกแม่ว่า...อย่าเพิ่งไปให้รอผมจนกว่าผมจะกลับจาก
ซุปเปอร์มาร์เก็ตฮะ'
แล้วเขาก็หยิบรูปที่น่ารักมากของเขาซึ่งกำลังหัวเร าะให้ฉันดู แล้วก็บอกว่า... 'ผมอยากให้แม่เอารูปนี้ไปด้วยฮะ เธอจะได้ไม่ลืมผม
ผมรักแม่ฮะ และผมก็หวังว่าเธอจะไม่ต้องจากผมไป
แต่พ่อบอกว่า...เธอต้องไปอยู่กับน้องสาวของผม'
แล้วเขาก็จ้องมองตุ๊กตาอีกครั้งอย่าอาลัย
ฉันรีบคว้ากระเป๋าตังออกมาอย่างรวดเร็ว
หยิบธนบัตรออกมา 2-3ใบ แล้วพูดว่า 'ทำไมเราไม่ลองตรวจดูอีกที เผื่อว่าเราจะมีเงินพอ'
'ตกลงฮะ' เขาพูด 'ผมหวังว่าผมจะมีเงินพอนะฮะ'
ฉันแอบใส่เงินของฉันลงในกระเป๋าตังส์ของเขาโดยไม่ให้เขาเห็น...แล้วเขาก็เริ่มนับมัน
มันไม่ได้ มีเงินแค่พอซื้อตุ๊กตาเท่านั้น แต่ยังเหลืออีกด้วย เด็กชายพูด...
'ขอบคุณพระเจ้าที่ประทานเงินให้ผมฮะ' เขามองฉัน แล้วพูดเสริมว่า...
'ผมอธิษฐานกับพระเจ้าก่อนนอนเมื่อวานฮะ
ว่าขอให้ผมมีเงินพอที่จะซื้อตุ๊กตาตัวนี้เพื่อแม่จะได้เอาไปให้น้องสาวของผมฮะ แล้วพระองค์ก็ได้ยิน
ความจริงผมอยากได้! เงินที่จะซื้อกุหลาบสีขาวให้แม่ด้วยฮะ แต่ผมไม่กล้าขอมากเกินไป
แต่พระองค์ก็ให้เงินผมมากพอที่จะซื้อทั้งตุ๊กตา และกุหลาบ
แม่ของผมชอบกุหลาบขาวมากฮะ'
2-3 นาทีต่อมา.... หญิงชราก็กลับมา
ฉันเดินออกมากับรถเข็นของฉัน(รถเข็นที่ใช้ในซุปเปอร์มาร์เก็ตอะ)
ฉันซื้อของจนเสร็จด้วยความรู้สึกที่ต่างจากตอนมาโดยสิ้นเชิง
ฉันไม่สามารถเอาภาพของเด็กชายคนนั้นออกจากจิตใจฉันได้
หลังจากนั้นฉันก็จำข่าวที่อยู่ในหนังสือพิมพ์เมื่อ 2 วันก่อนได้
มันบอกว่าคนขับรถบรรทุกที่เมาเหล้าคนหนึ่งขับรถชนรถอีกคันหนึ่งที่มีหญิงสาวคนหนึ่งกับเด็กหญิงตัวเล็กๆในรถ
เด็กหญิงคนนั้นเสียชีวิตทันที แต่แม่ของเธออยู่ในขั้นบาดเจ็บสาหัส
ครอบครัวของพวกเขาต้องตัดสินใจว่าจะดึงปลั๊กเครื่องช่วยหายใจดีหรือไม่
เพราะถึงยังไงเธอก็ไม่สามารถดีขึ้นไปกว่าขั้นโคม่าได้
ครอบครัวนี้จะเป็นของเด็กชายคนนั้นรึเปล่านะ
2 วันหลังจากได้พบกับเด็กชายคนนั้น
! ฉันอ่านเจอในหนังสือพิมพ์ว่า หญิงสาวคนนั้นได้เสียชีวิตแล้ว
ฉันไม่สามารถหยุดตัวเองไว้ได้ที่จะไปซื้อกุหลาบช่อหนึ่ง แล้วไปที่ Mortuary ซึ่งร่างของหญิงคนนั้นได้ถูกเปิดให้คนได้ดู และอธิษฐานเป็นครั้งสุดท้ายก่อนฝัง
เธออยู่ในนั้น
ในโลงศพของเธอในมือมีดอกกุหลาบสีขาวดอกหนึ่ง กับรูปถ่ายของเด็กชายคนนั้น
และมีตุ๊กตาวางอยู่บนหน้าอก
ฉันออกไปข้างนอกทั้งน้ำตา...รู้สึกว่าชีวิตของฉันได้เปลี่ยนไปตลอดกาล
ความรักที่เด็กผู้ชายคนนี้มีให้แม่ และน้องสาวของเขานั้นจะยังคงอยู่ยืนยาวสุดแก่การจินตนาการ
แต่เพียงแค่เศษเสี้ยววินาทีเท่านั้น
คนดื่มเหล้าคนหนึ่งก็ได้พรากทุกสิ่งทุกอย่างไปจากเขา
ตอนนี้คุณมี 2 ตัวเลือก...
1. ส่งข้อความ! นี้ให้แก่ทุกคนที่คุณรู้จัก
2. ลบข้อความนี้ทิ้ง...ราวกับว่ามันไม่เคยทำให้คุณรู้สึกซาบซึ้งอะไรเลย...
ถ้าคุณส่งข้อความนี้ บางที...
คุณอาจได้ช่วยป้องกันไม่ให้บางคนที่เมาแล้วขับก็ได้...
เพื่อนเหมือนกับนางฟ้าที่ช่วยเราบินในยามที่ปีกของเราหลงลืมวิธีแห่งการบิน
ทีม คือกลุ่มคนที่อาจจะมี ประสบการณ์ พรสวรรค์ หรือระดับการศึกษาที่ไม่เท่ากัน แต่อยู่ในหน้าที่เดียวกัน
เมาต้องไม่ขับเด็ด! ขาด!... ทุกครั้งที่เมาแล้วต้องไม่ขับรถ!
คิดถึงเรื่องนี้เอาไว้ แล้วนั่งรถแท๊กซี่กลับบ้าน
ช่วยๆ กัน forward ต่อด้วยนะครับ... อย่างน้อย น่าจะช่วยใครได้สักคน!...
เราหวังเอาไว้เช่นนั้น****
Bookmarks