เอามาให้ดูเล่นๆครับ ส่วนรถผมยังไม่ได้ติดตั้ง ฮ่าๆๆๆๆ
เอามาให้ดูเล่นๆครับ ส่วนรถผมยังไม่ได้ติดตั้ง ฮ่าๆๆๆๆ
งี้ก็มีด้วย... กำลังว่าจะไปติด
กำ ดีนะยังไม่ได้ติด
ในเมืองห้ามเปิดครับ ถ้าไม่เจอก็ไม่โดนครับ
ชื่อก็บอกอยู่แล้วครับ ไฟตัดหมอก เปิดได้เวลาหมอกลง ฝนตกหรือทัศนวิสัย ในการมองไม่ดีครับ
อยู่ที่ดุลยพินิจ
ผมเข้าด่าน ดับไฟหน้า เปิดตัดหมอก
รอดทุกที
ปัจจุบัน ปฏิเสธไม่ได้ว่ารถรุ่นใหม่แทบทุกรุ่นต่างได้รับการติดตั้งชุดไฟตัดหมอกกออก มาจากโรงงาน และคนจำนวนมากก็เข้าใจผิดคิดว่านี่เป็นแฟชั่นใหม่ไปสรรหามาแต่ง จนกลายเป็นสัญลักษณ์ของบรรดาคอซิ่ง และรถแต่งจำนวนมากไปแล้ว
แม้ว่าการติดตั้งไฟตัดหมอกออกมาจากโรงงานก็ เพื่อเพิ่มทัศนวิสัยการขับขี่ให้ดียิ่งขึ้น แต่มีคนจำนวนมากไม่เข้าใจวิธีใช้ไฟตัดหมอกที่ถูกต้อง ซึ่งอาจจะก่อให้เกิดอันตรายมากกว่าประโยชน์ และยังผิดกฏหมายอีกด้วย
ไฟตัดหมอกไม่ใช่ของใหม่แต่อย่างใด ทว่ามีมานานมากแล้ว โดยเฉพาะประเทศเมืองหนาว หรือ ประเทศที่มีภูเขาค่อนข้างมาก โดยเจ้าไฟตัดหมอกนี้จะเป็นดวงไฟชุดที่ 2 ที่จะช่วยให้ความสว่างยามที่ทัศนวิสัยการขับขี่ไม่เอื้ออำนวยนัก
ชุดไฟตัดหมอก โดยมากมันก็คือสปอร์ตไลท์ย่อส่วน ที่มาพร้อมกับดวงไฟขนาดไม่ใหญ่โตนักขนาด 55 วัตต์ แต่ก็ทะลุทะลวงเอาเรื่อง ด้วยหลอดไฟแบบเดียวกับสปอร์ตไลท์ ที่จะกระจายแสงในระนาบแนวกว้าง ทำให้สามารถเพิ่มทัศนวิสัยในการขับขี่ได้อีก แม้จะไม่มากมายแต่ก็สามารถให้มองเห็นทางได้ดียิ่งขึ้น และยังเป็นที่สังเกตของรถที่สวนมา หรือรถที่ตามมาข้างหลัง สำหรับไฟตัดหมอกหลัง
การใช้ไฟตัดหมอกแม้มันจะขึ้นชื่อว่าไฟตัด หมอก แต่คุณก็สามารถใช้ได้ โดยเฉพาะในหน้าฝนที่ตกพรำๆบ่อยเช่นนี้ ผิวที่เคลือบด้วยน้ำจะทำให้ทัศนวิสัยไม่ดี การเปิดไฟตัดหมอกก็จะพอช่วยได้ แต่ถ้าจะให้ดีจริงๆ เรามาดูกันว่า สถานการณ์ไหน ที่คุณควรจะต้องเปิดไฟตัดหมอกขับรถกัน
1.เมื่อฝนตก นี่เป็นสิ่งที่ควรทำและน่าจะทำอย่างยิ่ง เมื่อพบว่าตัวเองกำลังฝ่าฝนชุดใหญ่ที่ตกอย่างไม่ลืมหูลืมตา คุณสมบัติการกระจายแสงของไฟตัดหมอกจะช่วยให้คุณเป็นที่สังเกตได้ง่าย เช่นเดียวกับการเพิ่มทัศนวิสัยให้ตัวเอง ไปด้วยในตัว
2.เมื่อเจอหมอก อัน นี้คงไม่ต้องกล่าวอะไรกันมากเพราะมันเป็นสิ่งที่ ไฟตัดหมอกเกิดมาเพื่อทำหน้าที่ตามชื่อของมัน โดยมากเราอาจจะคิดว่าไฟตัดหมอกได้ใช้เฉพาะหน้าหนาว แต่ความจริงแล้ว เมื่อใดก็ตามที่ขึ้นภูเขาหรือ ที่สูงและพบว่าคุณตกอยู่ในทัศนวิสัยไม่ดี ก็สามารถเปิดใช้ได้เลย
3.หลังฝนหยุดในเวลากลางคืน ข้อนี้เป็นข้อที่เราอยากแนะนำให้ท่านทำอย่างมาก เพราะมันมีประโยชน์ โดยเฉพาะการเห็นเส้นทางที่จะทำได้ชัดเจนจริงๆ ไม่ว่าป้ายบอกทางและเส้นจราจรต่างๆ ช่วยให้คุณขับรถได้ง่ายขึ้น โดยปกติแล้วเมื่อฝนตกจนหยุดแล้ว ถนนจะยังเปียกชื้น แม้เราเปิดไฟใหญ่ไป แต่ก็จะพบว่ามันไม่ค่อยสว่างนัก การหันมาเพิ่มความเข้มของแสงด้วยไฟตัดหมอกจะขจัดปัญหานี้และช่วยลดการสะท้อน ของน้ำที่ผิวถนนไปด้วยในตัว
4.ขับผ่านกลุ่มควัน ไม่ว่าจะไฟไหม้หญ้าหรืออะไรก็ตามถ้าคุณพบว่า ไม่สามารถมองเห็นทางข้างหน้าเกินกว่า 50 เมตร ก็สามารถเปิดใช้ไฟตัดหมอกได้ โดยไม่ผิด
อย่างไรก็ดีการใช้ไฟตัดหมอกที่ถูกต้องจริงๆแล้วควรปิดเมื่อพบว่ามีรถสวนมาข้างหน้าในยามค่ำคืน โดยเฉพาะถนน 2 เลนสวนกันควรจะปฏิบัติอย่างยิ่ง และจงจำไว้ว่าไฟตัดหมอกไม่ใช่แฟชั่น ไม่ควรใช้อย่างพร่ำเพรื่อ
ทั้ง นี้หากคุณเป็นคนหนึ่งที่ใช้ไฟตัดหมอกอย่างผิดๆ เพราะความไม่เข้าใจบัดนี้ถึงเวลาแล้วที่ต้องเปลี่ยนวิธีการปฏิบัติตัวเอง ใหม่ การเปิดไฟตัดหมอกอย่างพร่ำเพรื่อ นอกจากจะแสดงถึงมารยาทที่ไม่ดีในการใช้รถใช้ถนน แล้ว หากเจ้าหน้าที่พบเห็นสามารถจับท่านได้ในข้อหาเปิดไฟตัดหมอกโดยไม่มีสาเหตุ มีโทษสูงสุดปรับ 500 บาท
เครดิต จาก เว็บ sanook
ผมว่าจับก็ดีนะเห็นเปิดกันเกลื่อนเลย มันจะแยงตาผู้ที่ขับสวนอ่ะ เขาให้เปิดตอนฝนตกหรือหมอกลงจัดต่าหาก จับพวกเปิดตัดหมอกหลังด้วยยิ่งดีอ่ะแสบตามั่กๆ เจ้าลูกอ๊อด....5555
ข้อ ๓ ให้เพิ่มความต่อไปนี้เป็น (๓ ทวิ) ของข้อ ๑๓ แห่งกฎกระทรวงฉบับที่ ๒ (พ.ศ. ๒๕๒๒)
ออกตามความในพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. ๒๕๒๒
"(๓ ทวิ) ในกรณีที่รถมีโคมไฟเพื่อใช้ตัดหมอก
จะเปิดไฟหรือใช้แสงสว่างได้เฉพาะในทางที่จะขับรถผ่านมีหมอก ควัน หรือฝุ่นละออง
จนเป็นอุปสรรคอันอาจเกิดอันตรายในขณะขับรถ
และเมื่อไม่มีรถอยู่ด้านหน้าหรือสวนมาในระยะของแสงไฟ"
เปิดได้ครับ ไม่ผิดหรอก เพราะมันทำให้ทัศนวิสัยดีมากขึ้น
แต่ไม่ควรปรับจนไปแยงตาชาวบ้าน
ไอ้ที่น่าด่า คือ ไฟตัดหมอกหลังครับ
และน่าด่าอีกแบบก็คือ การเปิดตัดหมอกหน้า แต่ไม่เปิดไฟใหญ่ครับ
ผมว่าคนรุ่นใหม่ไม่รู้ว่าควรเปิดตอนไหนกัน เห็นเปิดกันทุกคันเลยขนาดขับในกทม.หรือในเขตชุมชนยังเปิดเลยผมจะเปิดก็ตอนฝนตกกับเจอหมอกและควันนานจะใช้สักที่
ดีนะที่ผมถอดออกแล้ว
ติดไฟตัดหมอกได้ครับ
หากไม่จำเป็นก็ไม่ควรเปิด ทั้งไฟตัดหมอกหน้าและหลัง
มันแยงตาชาวบ้านเขา ทัศนวิสัยก็ปกติ
สำหรับผมแล้วถือว่าเห็นแก่ตัวมาก
โดยเฉพาะพวกรถยกสูงทั้งหลายมันจะส่องเข้าตาพวกรถเก๋งและรถเตี้ย จึงไม่ควรอย่างยิ่ง
นึกถึงใจเขาใจเราเถอะครับพี่น้อง
ใครเปิดไฟตัดหมอกสวนมา ผมจะเปิดไฟสูงใส่ทุกคัน
ดังนั้น ที่ตำรวจเขียนใบสั่งนี้เหมาะสมและถูกต้องที่สุด
เท่าที่เห็นใน กทม. เนี่ยตัวดี ไฟทางก็เพียบยังจะดันทุรังเปิดกันอีกไอ้ไฟตัดหมอกเนี่ย ของผมก็มีแต่แทบไม่ได้ใช้เลย ไม่รู้ยังใช้ได้ป่าว
ผมก็ใช้แต่นอกเมืองครับเพราะถนนมันไม่มีไฟข้างทางอ่ะครับ
ส่วนในเมืองผมว่าไม่น่าจำเป็นต้องใช้เพราะไฟทางมันสว่างเหลือๆอยู่แล้วครับ
ให้ไบสั่งก็ดีนะครับไม่งั้นต่อไปคงเปิดกันเป็นแฟชั่นอ่ะครับ
เข้า กทม. โดนเรียกเหมือนกัน แต่ โดนแค่ตักเตือนครับ
มันไม่ใช่เรื่องผิดปกติหรอกครับมันเป็นกฎหมาย แต่ปัจจุบันรถที่ออกจากโรงงานผู้ผลิต มักติดมาให้พร้อมที่นี้คนใช้นึกว่าเป็นเรื่องปกติพวกก็เล่นเปิดกันตลอดเวลา ทั้งๆที่วิ่งในเมืองก็เปิดมันแยงตาชาวบ้านและผิดกฎหมายจราจรด้วยนะครับ รถผมก็ติดมาจากโรงงานแต่ไม่เคยใช้งานสักครั้ง ชื่อก็บอกตรงๆอยู่แล้วว่าไฟตัดหมอก ไม่มีหมอกก็ห้ามเปิด ติดมาแล้วไม่เปิดก็ไม่ผิดครับหากเปิดในที่สมควรจะเปิด ผมอยากให้มีตำรวจแบบนี้เยอะๆก็ดีครับ จะได้เลิกเปิดไฟตัดหมอกวิ่งในเมืองสักทีมันแสบตาครับพี่น้อง
คุณตำรวจทำถูกต้องแล้วครับ
เจริญกรุง กทม. มีหมอกซะที่ไหน
จับต่อไปครับคุณตำรวจเป็นกำลังใจให้
เห็นด้วยกับน้านุ๊กคับ เปิดแล้วมันมองเห็นชัดเจนขึ้นคับ อิกอย่างเดี๋ยวนี้ส่วนใหญ่ติดฟิล์มกัลหนาๆกัลทั้งนั้น เรียกว่าดำเมี่ยมกัลเลยทีเดียว ยิ่งทำให้ไม่ชัดเจน คงส่วนน้อยอะคับที่ ติดฟิล์มกัลใสๆปิ๊ง ร้อนแย่คับเมืองไทย (เข้าข้างตัวเองนิดเพราะผมชอบเปิด อิอิ ชัดดี เสี่ยงเอาๆ)
ผมเปิดเมื่อจำเป็นครับ ไม่ต้องรอมีหมอกหรือฝนหรอก แค่ที่มืดมากๆ ไม่มีไฟถนน และสภาพถนนแย่ๆ ก็จำเป็นต้องเปิดเหมือนกัน ดูระยะไฟแล้วก็ไม่ได้พุ่งไปไหนเลย มันอยู่แค่หน้ารถเราไม่น่าจะเกิน 4 เมตรนะครับ
ในขณะนี้มี 1 ท่านดูกระทู้อยู่. (0 สมาชิกและ 1 ผู้เยี่ยมชม)
Bookmarks