จริงหรือครับ
จริงหรือครับ
ไม่รู้เหมือนกันนะครับ ใช้มาตลอด 35,000 โลแล้ว ไม่มีปัญหาอะไรอ่ะ ผมแค่เก็บใบเสร็จไว้อย่างเดียว เผื่อเป็นอะไรก็ไปร้องเรียนกับปั๊มที่รับผิดชอบเอาอะครับ มี 2 ยี่ห้อปั๊มแระ
อย่าไปโทษน้ำมันเลยครับ
ก็เห็นอยู่ว่า เติม วี ยังเปนเลย
ทางที่ดี อะไรก็เติมได้ครับ ในสายพันธุ์ ดีเซล
แนะนำ ถ้าวิ่งในเมือง ให้เติม บี 5 ครับ (วันนี้ราคา 20.74)
ถ้าวิ่งนอกเมือง ให้ใช้ดีเซลธรรมดา (วันนี้ ราคา 22.24)
ต่างจังหวัด วิ่งยาว ดีเซลธรรมดา ให้ความประหยัดกว่าครับ
ผมก็เติมแหลกมั่วไปหมดทั้D100/B5ไม่รู้ว่าถ้าเป็นจะไปโทษจ้าวไหนแต่ผมเลือกแต่ปั้มใหญ่ๆทันสมัยสอาดๆไว้ก่อนเพราะตู้จ่านน้ำมันมัมแพงหลายล้าน น้ำมันต้องผ่านกรองก่อนเข้าตู้จ่ายพอจะเห็นสภาพของน้ำมันที่ไม่มีเศษสนิมลงมาในถังเรา ส่วนมากก็ ปตท/บางจาก ตอนนี้ยังไม่มีอาการเพราะแค่ 7เกือบ8,000โลแล้วรถ6เดือนครับ อ้อแต่ไม่เติมของV-ver.ๆ.นะมันอำพลางก็มันเป็นB-2
sale ใช้รถยี่ห้ออะไรครับ
ผมวิ่งมา 100,000 กว่าโลแล้ว ไม่เห็นเป็นไรเลย
ผมลองแล้ว มันอืดๆ บอกไม่ถูก เครื่องมันดังกว่าเดิม นะ รู้สึกไปเองป่าว ก็ไม่รู้ แต่พอกลับมาใช้ วีพาวเวอร์ วิ่งปล๋อเลย เครื่องก็เงียบเบาลง
แล้วจะยังไงดีหว่า B5 D100
โอ กระทู้เก่าแล้ว แต่ตอบด้วย
ผมใช้ บี๕ (ห้ามผวน) หมื่นกว่าโล ประมาณ ๑,๐๐๐ ลิตร แล้ว
ยังไม่พบปัญหาครับ
ว่าแต่ ดีเซลธรรมดา หรือ วี มันก็คือ บี๒ นี่ครับ
เซลล์บางคน ผมว่ารู้น้อยกว่าคนในคลับอีนะครับ
จากน้องใหม่ครับ-แบ่งปันความรู้ครับ!!
อันที่จริงการใช้เชื้อเพลิงเผาไหม้เนี่ย ผมก็เคยถามเซลล์ที่ขายรถให้ ซึ่งผลเหมือนกัน
แต่ก็ไม่หูเบาครับ(เชื่อหู-ไว้หู) เลยถามเพื่อนซี้!!ก็ได้ความว่า การใช้งานน้ำมันประเภท
B5 หรือ ไบโอดีเซล5เปอร์เซ็นต์ นั้นขึ้นอยู่กับปริมาณการใช้งานรถเราครับผม คือ
ถ้าใช้งานทั้งวันหรือไม่ต่ำกว่า150Km.ต่อวัน หรือว่าจอดต่อเนื่องไม่เกิน48ชม.
เป็นประจำ(ขอย้ำว่าเป็นประจำครับ) ก็จะไม่เกิดผมข้างเคียงใดๆ แต่....!!ถ้าพี่ๆใช้รถ
น้อยมากๆ คือ จอดมากกว่าวิ่งเค้าจะไม่แนะนำครับ เพราะเหตุผลที่ว่า ไขจาก
ไบโอดีเซลล์5เปอร์เซ็นต์นี้จะเกิดการอุดตันที่ชุดหัวฉีดได้ครับ
จากอะไร? จากที่การที่รถจอดนานๆไม่มีการปล่อยเชื้อเพลิงฉีดเข้าห้องเผาไหม้ครับ
ทำให้เกิดการอุดตันที่ชุดหัวฉีดหรือถ้าโชคดีก็อาจจะเจอปัญหาก่อนอาการจะเกิด
ขึ้นรุนแรงครับ(อยู่ที่ประสบการณ์การสังเกตุของแต่ละบุคคล) แต่ปัญหาการใช้งาน
ในรูปแบบนี้ก็จะเกิดปัญหากับระบบอื่นๆอีกเช่น Cat. และ สภาพน้ำมันเครื่อง.ฯลฯครับ
ทั้งนี้หากพี่ใช้งานรถทุกวันก็น่าจะหมดห่วงนะครับผม
ผมก็ใช้ปกติ
พลัส 140 ม้า 4x4 140 ม้า ต่างกันมั้ย มันก็ไม่ต่างเครื่องตัวเดียวกันผม B5 มาตั้งแต่วันแรกที่รับรถจนทุกวันนี้ หนึ่งปี 3 เดือน เก้าหมื่นกว่ากิโล ยังไม่เป็นไรเลยเชลล์สงสัยจะรู้ไม่จริงแล้วล่ะครับ
ผมว่าใช้B5 มีปัญหาที่วิ่งไม่ค่อยออก มันอืด แล้วอีกไม่นาน scv อาจตัน(ขึ้นอยู่กับการใช้งาน) ของผมใช้ดีเซลธรรมดาตันตอน 70000 โล (อีกไม่นาน น้ำมันดีเซลทุกยี่ห้ออาจเปลี่ยนเป็น B5 )
โดยส่วนตัวคิดว่า บีห้า มีผลกับแคตครับ
เพราะรถผมแค่ 15000 โล แคตมีเขม่าสะสมมาก
แต่หลังจากถอดแคตออกแล้ว ปรากฏว่า บี 5 ควันเหม็นน้อยกว่าดีเซลครับ
น้องใหม่ขอแสดงความคิดเห็นเรื่องb5หน่อยคับจากที่ใช้งานมาตลอด2 ปี 50,000 กว่าโลเกือบ60,000โล ของผม4ประตูสีดำเดิมๆ อยู่3 จชต.กลับบ้านที่หัวหินเดือนละ 1 ครั้ง อยู่หัวหิน 10 วัน ใช้งานทุกวันแล้วว่าจะไปใกล้ไกลแค่ไหน การใช้น้ำมัน ใช้ทั้งธรรดาและ B5
(รวมทั้งน้ำมันหลวงด้วย) ยังไม่เคยมีปัญหาใดๆ ทั้งสิ้น (เข้าเช็คศูนย์ตามระยะกิโล/b5 เติมของ ปตท.เท่านั้น ) ความเร็วที่ใช้ระหว่างกลับไปหัวหินและหัวหินกลับมา 3 จชต. ประมาณ 130-140 กม./ชม. เป็นความเร็วมาตรฐาน ระยะทางประมาณ 900 กิโล/1 เที่ยว (ไป-กลับ 1800 กิโล ) ความเร็ว-การเร่งแซง เป็นปกติ(แซงที่เกียร์5ไม่เปลี่ยนเกียร์ที่ความเร็ว100 ขึ้นไปไม่มีลุ้น/แซงได้ตามใจสั่ง) เมื่อกลับมาถึง3 จชต. จะจอดนิ่งไม่มีการเคลื่อนไหว เป็นเวลา 1 เดือน (ติดเครื่องบ้างเป็นบางครั้ง) สลับยาง/ตั้งศูนย์ 1 ครั้ง ที่ระยะ 20,000 โล หวังว่าคงจะทำให้หลายท่านที่สงสัยคลายความกังวลได้บ้างไม่มากก็น้อยนะคับ
ถ้าได้วิ่งไกล ๆ จะลองเติม B5 - Plus ใส่ Triton Plus ดูซิว่า Plus 2 ตัวนี้ไปด้วยกันได้หรือเปล่า.....
เติมบ่อยครับทั้ง B5,b5 Plus,desel สลับกันบ้าง
แต่ส่วนใหญ่ใช้ประจำคือ B5 ถูกดีประหยัดด้วย
31000 แล้วครับ ใช้ดีเครื่องไม่มีตก ปรกติดีทุกอย่าง
ในขณะนี้มี 1 ท่านดูกระทู้อยู่. (0 สมาชิกและ 1 ผู้เยี่ยมชม)
Bookmarks