เบื่อๆ เลยอยากถามพี่น้องครับว่า ความอดทน คือไร ทำไงบ้างถึงเรียกว่าอดทน อดกลั้นครับ ช่วยอนุเคราะห์ให้ความกระจ่างผมทีครับ...นึกว่าเอาบุญนะพี่น้องนะ
เบื่อๆ เลยอยากถามพี่น้องครับว่า ความอดทน คือไร ทำไงบ้างถึงเรียกว่าอดทน อดกลั้นครับ ช่วยอนุเคราะห์ให้ความกระจ่างผมทีครับ...นึกว่าเอาบุญนะพี่น้องนะ
อือ...
ความอดทน คือ การเพิ่มระดับความพอใจของฝ่ายตรงข้าม..
ต้องทำงัย ..ก็...เอาลิ้นดันเพดาน แล้วแว๊บไปคิดเรื่องอื่น ๆบ้าง...อย่าเกร็ง..
ขอบคุณครับน้า
ความอดทนอดกลั้น นิยาม ความอดทน คือการกระทำทุกอย่างด้วยความตั้งใจ สม่ำเสมอเป็นระยะเวลานาน โดยไม่ย่อท้อต่อปัญหาและอุปสรรคทั้งปวง ความอดกลั้น คือ การรู้จักข่มใจในเวลาที่เผชิญกับเหตุการณ์ที่เย้ายวนทุกรูปแบบ อันจะทำให้ไม่เกิดความเสียหายหรือถลำลึกลงไปในความชั่วร้าย หรือความทุจริตทั้งปวง ความเข้มแข็ง ความบึกบึน ความหนักแน่นของจิตใจที่สามารถยืนหยัดต่อสู้การกระทบกระทั้งของสภาพการณ์และเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยไม่แสดงอาการหวั่นไหวใด ๆ
ตัวอย่าง- ไม่แสดงอาการเจ็บป่วย หรือทุรนทุรายต่อความเจ็บป่วย หรือต่อ ความลำบาก ตรากตรำ
- อดทนต่อความยากลำบาก ต่อคำเย้ยหยัน คำดูหมิ่น และคำวิพากษ์วิจารณ์ของผู้อื่นโดยไม่แสดงปฏิบัติโต้ตอบใด ๆ
- มีจิตใจเข้มแข็ง ไม่ท้อแท้ ไม่ว่าจะตกอยู่ในสภาพการณ์หรือเหตุการณ์ใด ๆ
College of Music, Mahasarakham University
เช่าพื้นที่ทำเว็บไซต์/จดโดเมนเนม โทร: 08-9618-2088, LIND ID: siamednet
"ขันตีปะระมัง ตะโปตีติกขา" "ความอดทน คือความอดกลั้น เป็นความเพียรเครื่องเผากิเลส อย่างยอดเยี่ยม
ความอดทนของร่างกาย คือ ความอดทน ความอดกลั้น ของร่างกาย ต่อความยากลำบาก เพื่อให้งานหรือสิ่งที่ทำบรรลุผล
ความอดทนทางใจ คือ ความอดทนต่อสภาวะที่มากระทบต่อจิตใจ ก่อให้เกิดความเศร้าหมอง ความทุกข์ระทมใจ ซึ่งผมเห็นว่าสิ่งนี้เป็นสิ่งสำคัญ และเป็นจุดเปราะบางที่จะต้องให้การดูแลเป็นพิเศษ
การขาดความอดทนทางด้านจิตใจ ใจจะสั่งกายให้ทำอะไรก็ได้ตามที่ใจต้องการ ไม่ว่าจะรัก โลภ โกรธ หลง ต่าง ๆ นานา แต่หากเราไม่เป็นไปตามที่ใจเราต้องการ สามารถเอาชนะใจได้ ไม่ทำในสิ่งที่ผิด ถือว่ามีความอดทนทางด้านจิตใจที่น่ายกย่องยิ่งนัก
ผมหยิบเรื่องนี้ขึ้นมา เพราะเพื่อจะบอกว่า ความอดทนทางใจ มีขีดจำกัด หากถึงจุดที่เกินจะทน นี่คือจุดที่อันตราย ที่จะสั่งให้คนเราทำอะไรก็ได้ในสิ่งที่เราไม่คาดคิด
เพราะฉะนั้นอย่าปล่อยให้ระเบิดเวลาตัวนี้ ปะทุขึ้นเลยครับ ทางแก้ก็คือ การเดินทางสายกลาง พบกันครึ่งทาง หันหน้าคุยกัน ตกลงจะเอาอย่างไร และสุดท้ายก็ทำตามข้อสัญญานั้น ๆ ก็จะทำให้สังคมอยู่กันอย่างสงบสุขครับ และเกิดความพอใจทั้งสองฝ่าย เลิกทำตามใจตัวเองซะทีเถิดครับ
จะได้ไม่ต้องมาทะเลาะกัน ห้ำหั่น ชิงดีชิงเด่น ต่างฝ่ายต่างไม่ยอมกัน แล้วจุดสิ้นสุดของปัญหามันจะอยู่ตรงไหน
หรือเพื่ออยากจะเป็นผู้ชนะ ไม่มีใครชนะครับ มีแต่ผู้แพ้ คือ.....
การพ่ายแพ้ต่อ "ขันตีปะระมัง ตะโปตีติกขา" คือ ความอดทน คือความอดกลั้น ซึ่งเป็นเครื่องเผากิเลส อย่างยอดเยี่ยม นั่นเอง
College of Music, Mahasarakham University
เช่าพื้นที่ทำเว็บไซต์/จดโดเมนเนม โทร: 08-9618-2088, LIND ID: siamednet
คุณค่าของความอดทน
10 มีนาคม 2552 - 00:00
มีภาษิตเก่าๆ ประโยคหนึ่ง...ซึ่งไม่ได้มีการระบุเอาไว้แน่ชัด ว่าใครเป็นคนเอ่ย ใครเป็นคนคิด ขึ้นมาเป็นรายแรก อีกทั้งยังฟังดูทื่อๆ ง่ายๆ ถ้าหากไม่เก็บมาคิด มาพิจารณา ให้ถ่องแท้ ก็อาจจะผ่านหู ผ่านตา ไปเฉยๆ เพราะภาษิตนิรนามที่ว่านั้น เอ่ยเอาไว้สั้นๆ แต่เพียงว่า... สิ่งใดที่ยังแก้ไขไม่ได้...สิ่งนั้นต้องอดทน
-------------------------------------------
แต่จะด้วยภาษิตบทนี้...หรือจะด้วยภาษิตบทไหนๆ ก็แล้วแต่ ภายใต้บรรยากาศบ้านเมืองในยามนี้ การที่ท่านนายกรัฐมนตรี อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ได้ปรารภเอาไว้ในคำสัมภาษณ์ช่วงหนึ่ง เมื่อวันวานที่ผ่านมา...ว่า "ขณะนี้สภาพบ้านเมือง ทุกคนต้องมาร่วมกันแก้ไขปัญหา ปรบมือข้างเดียวไม่ดัง รัฐบาลจะไม่เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของปัญหาความขัดแย้ง แต่จะทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด เพราะได้รับคำแนะนำจากผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านเมืองมาตั้งแต่แรกว่า ทำงานในสภาวะแบบนี้ ต้องอดทน อดกลั้น จะยึดแนวทางนี้ต่อไป คือ อดทน อดกลั้น กับทุกๆ ฝ่ายที่เห็นแตกต่าง แต่จะไม่ยอมรับให้ใครทำผิดกฎหมาย..." อันนี้...คงต้องยอมรับว่าเป็นอะไรที่ทั้งเก๋ ทั้งน่ารัก น่าชื่นชมยกย่องอยู่ไม่น้อย...
----------------------------------------------
เพราะว่าไปแล้ว...ปัญหาของประเทศไทยในยามนี้ หรืออาจจะของโลกทั้งโลกอีกด้วยก็ว่าได้ หลายต่อหลายปัญหา มันมักจะออกไปในแนว ปัญหาที่ ยังแก้ไขไม่ได้ ยังต้องอาศัย จังหวะ เวลา หรือองค์ประกอบอื่นๆ อีกมากมายเยอะแยะ พูดง่ายๆ ว่า...ถ้าหากยังไม่ถึงพร้อมด้วยเหตุปัจจัยของสภาพตัวปัญหา ตลอดไปจนถึงสิ่งที่จะมาใช้เป็นเครื่องมือในการแก้ไขปัญหาได้อย่างครบถ้วนสมบูรณ์แล้ว ยังไงๆ มันก็คงแก้ไม่ได้ หรือแก้ไม่หมด และภายใต้สภาพเช่นนี้ ผู้ซึ่งมีหน้าที่ มีความรับผิดชอบโดยตรงต่อปัญหานั้นๆ เลี่ยงไม่พ้นที่จะต้องเรียนรู้ ยึดมั่น อยู่ในสิ่งที่เรียกๆ กันว่า ความ อดทน อดกลั้น อย่างถึงที่สุด...
--------------------------------------------------
เอาง่ายๆ...แค่ ปัญหาเศรษฐกิจ ที่กำลังกดดัน คุกคาม โลกทั้งโลกอยู่ ณ เวลานี้ อันที่จริงก็พอเป็นที่รู้ๆ กันอยู่ว่า ต่อให้พระนารายณ์อวตารลงมาหมาดๆ ยังไงๆ ก็คงต้องอ้วกแตกกันเห็นๆ ไม่ว่าจะเป็นรัฐบาลที่ได้รับความชื่นชมจากโลกทั้งโลกอย่างรัฐบาล โอบามา หรือรัฐบาลไหนต่อไหนก็เถอะ ไล่ตั้งแต่อเมริกา ยุโรป จีน ญี่ปุ่น ตลอดไปจนถึงสิงคโปร์ ฯลฯ ล้วนแล้วแต่ เดี้ยง ไปด้วยกันทั้งนั้น ขึ้นอยู่กับว่าจะเดี้ยงมาก เดี้ยงน้อย ไปตามเหตุปัจจัยที่กระบวนการทุนนิยมทั้งระบบ ได้สร้างสม ดึงดูด ให้โลกทั้งโลกต้องเข้าไปเกี่ยวข้อง พัวพัน กันมานานนับเป็นศตวรรษๆ....
-----------------------------------------------------
จะมีแต่ผู้ซึ่ง...นอกจากจะไม่ได้มีส่วนร่วมในการแก้ปัญหา แต่กลับถนัดในการสร้างปัญหาให้กับผู้อื่นเท่านั้น ที่สามารถคุยโว โอ้อวด ชนิดแมงโม้บินว่อนข้ามโลกมาจากอเมริกาใต้ โดยไม่จำเป็นจะต้อง รับผิดชอบ ใดๆ ทั้งสิ้น ด้วยเหตุนี้...คงไม่ถึงกับต้องไปเสียเวลา นำเอาคำพูด คำจา เหล่านี้มาคิดให้รกสมอง ในเมื่อผู้คนจำนวนหนึ่งในสังคมยังมองเห็น กงจักร เป็น ดอกบัว ยังมองเห็น ผิด เป็น ถูก เห็น อกุศลกรรม เป็น กุศลกรรม อันถือเป็นเรื่องปกติ...ที่จะต้องเป็นไปตามเหตุปัจจัยของสังคมนั้นๆ ภายใต้ภาวะเช่นนี้ สิ่งที่เรียกว่า ความอดทน นั่นแหละ ที่พอจะนำมาใช้บรรเทา เบาบาง ไม่ให้สภาพปัญหามันลุกลาม เกินเลย ไปกว่านี้...
--------------------------------------------------
หรือถ้าจะพูดให้ชัดๆ ยิ่งไปกว่านั้น...หลายต่อหลายปัญหาในขณะนี้ มันคงไม่สามารถอาศัยเพียงแค่ สมอง ล้วนๆ ในการแก้ หรือการบรรเทา เบาบาง สภาพปัญหา ให้ลดน้อยถอยลงไปได้เท่านั้น แต่จำเป็นจะต้องอาศัยสิ่งที่เรียกกันว่า ใจ เข้ามามีส่วนอยู่ไม่น้อย ใจ อันยึดมั่นอยู่ในความซื่อสัตย์ สุจริต เป็นพื้นฐานเบื้องต้น อีกทั้งยังต้องเสริมเพิ่มเติมด้วย คุณธรรม ขันติธรรม ให้มากๆ เข้าไว้ เพราะภายใต้สภาวะที่ ปัญหา มันยังไม่ได้รับการแก้ไข หรือ ยังแก้ไม่ได้ ย่อมเป็นเรื่องปกติธรรมดาที่ใครต่อใคร จะต้องแห่ออกมาวิพากษ์ วิจารณ์ กล่าวหา โจมตี เสนอแนะ กันในชนิดหูแตก หูดับ เอาง่ายๆ...
-----------------------------------------------
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง...สำหรับ สังคมไทย อันเป็นสังคมที่อาจถือได้ว่า มีนักวิพากษ์ วิจารณ์ นักกล่าวหา นักซุบซิบนินทา ฯลฯ มากที่สุดในโลกก็ว่าได้ หรือเป็นสังคมที่บรรดาพวกนักวิชาการบางรายเรียกขานเอาไว้ด้วยภาษาหะรูหะราว่าเป็น สังคมทอนกำลัง มันจึงยิ่งเป็นเรื่องปกติธรรมดายิ่งขึ้นไปอีก ที่จะต้องมีการหยิบเอาปัญหาซึ่งยังไม่ได้แก้ หรือปัญหาที่ยังต้องอาศัยระยะเวลา และองค์ประกอบอื่นๆ ในการแก้ไขอีกมากมายเยอะแยะ มาใช้ในการกล่าวหา โจมตี ซึ่งกันและกัน...ไม่ต่างอะไรไปจาก ไก่ที่จิกตีกันอยู่ในเข่ง อะไรประมาณนั้น...
---------------------------------------------------
ด้วยเหตุนี้ สิ่งที่เรียกว่า ใจ...ในบางครั้ง-บางครา มันจึงมีความสำคัญกว่า สมอง ไม่รู้กี่เท่าต่อกี่เท่า เพราะมันสามารถนำเอามาใช้ปกป้อง คุ้มครอง ต้านรับกับแรงกดดันจาก ปัญหาที่ยังแก้ไม่ได้ หรือยังไม่ถึงพร้อมซึ่งเหตุปัจจัย ในอันที่จะลงมือแก้ไขกันแบบเบ็ดเสร็จ เด็ดขาด ชนิดรวดเดียวจบ และเอาเข้าจริงๆ แล้ว...ถ้าหากจะว่ากันตามแบบฉบับของนักรบประเภทเหยียบหิมะไร้รอย ที่สามารถเหาะขึ้นไปทำศึกกันบนก้อนเมฆ ก็ด้วยสิ่งที่เรียกว่า ใจ นี่แหละ ที่มักจะถูกนำมาใช้เป็นตัว ชี้ขาด ตัดสิน ชัยชนะและความพ่ายแพ้ในขั้นตอนสุดท้าย ไม่ว่าระหว่างใครต่อใคร จะเป็นกลุ่ม เป็นฝ่าย หรือเป็นตัวบุคคลก็ตาม...พูดง่ายๆ ว่า ต่อให้ฉลาดแสนฉลาด เก่งแสนเก่ง ขนาดไหน??? แต่ถ้าหาก ใจ ไม่นิ่ง ไม่ซื่อสัตย์ ไม่มีคุณธรรม ขันติธรรม แถมยังเล็กในระดับอวัยวะเพศมดซะอีกต่างหาก...ยังไงๆ ก็มีแต่แพ้กับแพ้เท่านั้น...ไม่งั้นคงไม่เผ่นไป ทำใจ อยู่ต่างบ้านต่างเมือง ไม่คิดจะกลับมาแสดงให้เห็นถึง ความอดทน อดกลั้น ความกล้าหาญ กล้าเสียสละใดๆ เอาเลยแม้แต่นิด...
---------------------------------------------------
ปิดท้ายด้วยวาทะวันนี้จาก ท่านรพินทรนาถ ฐากูร... "หากบังเอิญได้ดอกไม้...ตูข้าก็จะเก็บไว้ในดวงใจ แต่หากเป็นขวากหนาม ข้าก็จะอดทนกับมัน..."
-----------------------------------------------------
College of Music, Mahasarakham University
เช่าพื้นที่ทำเว็บไซต์/จดโดเมนเนม โทร: 08-9618-2088, LIND ID: siamednet
อดทนนะพอได้
แต่ทนอดหนะไม่ไหว
เกี่ยวกันป่าวเนี่ยน้าต่าย
มาให้กำลังใจครับ
ใจเย็นๆครับ..น้าต่าย...ใช้ความสงบสยบความเคลื่อนไหว...ส่งใจไปช่วยครับ..
น้าต่ายไม่สบายใจเหรอครับน้าใจเย็นๆลุ่มๆครับ
...อุปสรรค และ ปัญหา มีไว้เพื่อทดสอบความอดทนของมนุษย์ครับ...
ผมว่าโลกนี้ มีปัญหาครับ ...เพราะเกิดจากความไม่มีปัญญา(มยุรา) ของคนบางคนครับ คริๆๆๆๆเอาจริงๆล๊ะ555+
...แต่เป็นกำลังใจให้น้าต่ายเสมอครับ
... อะไรปล่อยวางได้ก็ปล่อยครับ
..........เรารู้ว่าวัตถุสิ่งนั้น คือ ขี้ เราจะเอานิ้วไปจิ้มมันทำไมครับ...
...
จะอดทนแบกรับไว้ทำไม
ยิ่งเราอดทน ยิ่งเราเอามาคิดมาก มันก็ยิ่งเป็นทุกข์
ปล่อยวาง ละเลย เมินเฉย ก็ สบายใจ แค่นั้น
ระหว่างคำว่า "ช่างมัน" กับคำว่า "เอาวะ" มันห่างกันแค่ชั่ววูบ แต่ผลที่ออกมามันต่างกันมากมาย
ความอดทนคือสมาธิครับ ตราบใดยังมีสมาธิ ก็ต้องรู้ว่าอะไรจะต้องอดต้องทน สาธุ
สำหรับผู้ชายอายุ 27 ปี อย่างผมนะ คิดอยู่เสมอว่า สติๆๆๆๆๆๆๆๆ
ยอมให้เค้าด่าว่าควาย ดีกว่าไปยิงเขาตายและติดคุก(ครอบครัวจะอยู่อย่างไร)
อดทน ...สมาธิ....ปัญญา
เราจะอดทนในสิ่งที่คนอื่นทนได้ยาก เราจะอดกลั้นในสิ่งที่คนอื่นกลั้นได้ยาก
เป็นบุคลิกของชายชาติทหารครับ
โอย....อ่านของ webmaster ตาลายไปหมด..แสดงว่าผมไม่มีความอดทนแน่นอน
ในขณะนี้มี 1 ท่านดูกระทู้อยู่. (0 สมาชิกและ 1 ผู้เยี่ยมชม)
Bookmarks