หน้า 1 จากทั้งหมด 3 หน้า 1 2 3 หน้าสุดท้ายหน้าสุดท้าย
สรุปผลการค้นหา 1 ถึง 20 จากทั้งหมด 54

กระทู้: ความรู้เรื่อง Battery ก่อนตัดสินใจเปลี่ยนลูกใหม่

  1. #1

    มาตรฐาน ความรู้เรื่อง Battery ก่อนตัดสินใจเปลี่ยนลูกใหม่

    เนื่องจากผมใช้รถไทรทันมาแล้ว 2 ปีกว่าๆ (ออกรถวันที่ 2 ธันวาคม 2548) มาถึงราวๆ 2 ปี 8 เดือน แบตเตอรี่ไม่เคยมีปัญหา แต่เมื่ออาทิตย์ที่แล้ว เปิดเพลงฟังในรถ (ดับเครื่อง) ปรากฎว่าแบตหมด ต้องเข็น.... ล่าสุดเมื่อวานนี้ (12/08/2551) เป็นอาการเดิมคือเปิดเพลงแล้วแบตหมด เลยต้องพ่วงแบต

    ก็เลยกำลังหาข้อมูลเกี่ยวกับแบตเตอรี่ เพื่อที่จะเปลี่ยนลูกใหม่ เพราะคิดว่าลูกเดิมที่ติดมากับรถ น่าจะคุ้มค่าแล้ว ซึ่งลองค้นหาข้อมูลตามอินเทอร์เน็ต ผู้เชี่ยวชาญด้านนี้บอกว่าไว้ว่า แบตเตอรี่ลูกหนึ่ง จะมีอายุราวๆ 1.5 - 3 ปี

    ลองอ่านข้อมูลด้านล่างดูนะครับ

  2. #2

    มาตรฐาน Re: ความรู้เรื่อง Battery ก่อนตัดสินใจเปลี่ยนลูกใหม่

    แบตเตอรี่รถยนต์ ไม่ใช่แค่ถ่านไฟฉาย

    แบตเตอรี่รถยนต์ ไม่ใช่แหล่งผลิตไฟฟ้า แต่เป็นเพียงไฟฟ้าสำรอง เลือกไม่ยุ่ง ดูแลไม่ยาก และไม่แพง แต่มีรายละเอียดไม่น้อย

    แบตเตอรี่รถยนต์ไม่เหมือนถ่านไฟฉาย ไม่เหมือนถ่านแบตเตอรี่โทรศัพท์มือถือ (ที่มีแต่การใช้ไฟฟ้าออกไปอย่างเดียว เมื่อหมดแล้วก็ต้องเปลี่ยนทิ้ง) โดยเป็นเพียงไฟฟ้าสำรอง เมื่อเครื่องยนต์ติดและถูกใช้งาน ก็จะมีการประจุไฟฟ้าเพิ่ม และถูกใช้งานออกไปหมุนเวียนกัน เติมประจุไฟฟ้าเข้า-ออกจากแบตเตอรี่อยู่เสมอ มิได้ใช้ออกตลอดเวลาจนกว่าไฟจะหมด

    ในกรณีที่แบตเตอรี่หมดต้องนับว่าเป็นความผิดปกติ ไม่ใช่หมดแบบถ่านไฟฉายทั่วไป มี 2 กรณี คือ หมดเพราะเก็บไฟไม่อยู่-แบตเตอรี่หมดอายุ (หลังใช้แบตเตอรี่ไป 1.5-3 ปี) หรือระบบไดชาร์จบกพร่อง

    รถยนต์ที่ใช้งานแบตเตอรี่ยังไม่หมด สภาพและระบบไดชาร์จปกติ แบตเตอรี่ไม่มีการหมดโดยมีการประจุและใช้ไฟฟ้าหมุนเวียนกันตลอด แบตเตอรี่มีการใช้ไฟออกอย่างเดียวเฉพาะช่วง สตาร์ทเครื่องยนต์ ที่มีการจ่ายกระแสไฟฟ้าเข้าสู่ไดสตาร์ทและระบบต่าง ๆ ของเครื่องยนต์ เมื่อเครื่องยนต์ทำงานแล้ว ไดชาร์จ (หรือยุคใหม่เป็นอัลเตอร์เนเตอร์ แต่ก็ยังเรียกรวมว่าไดชาร์จ) ก็จะทำหน้าที่ประจุไฟฟ้าเข้าแบตเตอรี่อย่างต่อเนื่อง โดยมีคัตเอาต์ (ทั้งแบบแยกหรือแบบรวมกับตัวไดชาร์จ) ทำหน้าที่ควบคุมการตัดการประจุ เมื่อไฟฟ้าเต็มแบตเตอรี่และประจุต่อเมื่อไฟฟ้าในแบตเตอรี่ไม่เต็มหรือพร่องลง

    ไดชาร์จ = อุปกรณ์ผลิตกระแสไฟฟ้า เมื่อถูกหมุนด้วยเครื่องยนต์/ผลิตไฟฟ้าเมื่อถูกหมุน

    ไดสตาร์ท = อุปกรณ์ไปรับกระแสไฟฟ้าเข้าไปเพื่อสตาร์ทหมุนเครื่องยนต์แล้ว ก็หมดหน้าที่/รับกระแสไฟฟ้า เพื่อหมุนตัวเองและเครื่องยนต์
    หากงงให้เปรียบเทียบดังนี้

    บ้านที่มีการใช้น้ำ = รถยนต์-เครื่องยนต์ที่มีการใช้ไฟฟ้า

    ปั๊มน้ำ = ไดชาร์จซึ่งทำหน้าที่ประจุไฟฟ้าโดยมีการแปรผันตามรอบเครื่องยนต์ด้วยรอบต่ำ หรือจอดเดินเบาก็ผลิตกระแสไฟฟ้าได้ไม่เต็มที่จนกว่าจะถึงรอบปานกลางขึ้นไป

    ถังน้ำสำรอง = แบตเตอรี่ เมื่อปั๊มยังไม่ทำงานหรือทำงานแต่ไม่เพียงพอ (ไดชาร์จหมุนช้า หรือใช้ไฟฟ้ามาก ๆ เช่นตอนกลางคืน เปิดแอร์ ไฟหน้า เครื่องเสียงชุดใหญ่และที่ปัดน้ำฝน) เริ่มต้นด้วยการจ่ายน้ำเข้าสู่บ้าน (เครื่องยนต์ถูกสตาร์ทด้วยไดสตาร์ท) จากถังน้ำสำรอง (แบตเตอรี่) โดยปั๊มน้ำ (ไดชาร์จ) ยังไม่ทำงาน เมื่อเข้าสู่ระบบปกติ (เครื่องยนต์ทำงานแล้ว)

    ปั๊มน้ำ (ไดชาร์จ) ก็ทำงานคอยส่งน้ำเข้าบ้าน พร้อมกับเสริมกลับเข้าสู่ถังน้ำสำรองที่พร่องลง ซึ่งก็แล้วแต่ว่าในตอนนั้นมีการใช้น้ำมากหรือน้อยกว่ากำลังการปั๊มในตอนนั้น เช่น ถ้าปั๊มน้อย (ไดชาร์จหมุนรอบต่ำ-รถยนต์จอดนิ่ง) แต่มีการใช้น้ำมากกว่าการปั๊มก็ต้องดึงน้ำมาจากถังสำรองมาใช้ควบคู่กัน เมื่อปั๊มแรงขึ้น (ไดชาร์จหมุนเร็ว) มีน้ำที่เหลือจากใช้งานแล้ว ก็จะถูกส่งกลับเข้าไปยังถังสำรองที่พร่องลง จนกว่าจะเต็ม

    ถ้าเป็นไปตามวงจรนี้ไปเรื่อย ๆ ก็คือ เมื่อปั๊มได้เกินความต้องการและส่งกลับเข้าถังน้ำสำรองเต็ม (แบตเตอรี่) ปั๊มน้ำก็จะตัดการทำงาน (ไดชาร์จตัด โดยยังหมุนอยู่แต่ตัด ระบบการประจุไฟฟ้า ด้วยคัตเอาต์แบบในหรือนอกตัว) จนเมื่อ ๆ ใดที่ปั๊มไม่ทันหรือมีการใช้น้ำมากกว่าการปั๊ม ก็จะดึงน้ำจากถังสำรองมาใช้

    ดังนั้นการที่มีถังน้ำสำรองใหญ่ ๆ ไว้จึงไม่ใช่เรื่องเสียหายเพราะเท่ากับว่ามีกำลังไฟฟ้าสำรอง ไว้มากไม่ได้กินแรงปั๊ม (ไดชาร์จ) หรือทำให้ปั๊มทำงานหนักขึ้นแต่อย่างไร ปั๊มจะทำงานหนัก ก็ต่อเมื่อมีการใช้กระแสไฟฟ้ามากเกินกำลังของไดชาร์จอยู่เกือบหรือตลอดเวลา

  3. #3

    มาตรฐาน Re: ความรู้เรื่อง Battery ก่อนตัดสินใจเปลี่ยนลูกใหม่

    ไฟเตือนบนแผงหน้าปัด
    ระบบการประจุไฟฟ้าของรถยนต์ทุกคันมีไฟสัญญาณเตือนบนแผงหน้าปัดแสดงเป็น ไฟรูปแบตเตอรี่โดยมิได้เป็นการเตือนว่าแบตเตอรี่หมดหรือเต็ม แต่เป็นการแสดงถึง ความปกติหรือผิดปกติของระบบไดชาร์จ

    หากทุกอย่างปกติ เมื่อปิดกุญแจในจังหวะแรก ไฟเตือนต้องสว่างนิ่ง และเมื่อเครื่องยนต์ถูกสตาร์ท และทำงานแล้ว ไฟเตือนจะดับลงตลอดการขับ

    ถ้าเครื่องยนต์ยังทำงานอยู่แล้วมีไฟเตือนสว่างขึ้น แสดงว่าระบบการประจุไฟฟ้าบกพร่อง โดยแบ่งเป็น 2 กรณี คือ ไดชาร์จ (หรือระบบการประจุไฟฟ้าเสีย) หรือสายพานไดชาร์จขาด โดยต้องรีบจอดรถยนต์ในที่ปลอดภัยเพื่อลงมาเปิดฝากระโปรงตรวจดูสายพานเป็นอย่างแรก ถ้าสายพานไม่ขาด แสดงว่าระบบไดชาร์จเสีย แต่ยังมีไฟฟ้าสำรองในแบตเตอรี่อยู่ สามารถขับต่อไปได้ในช่วงสั้น ๆ ประมาณกว่า 5 กิโลเมตร และนี่ก็คือการดึงไฟฟ้าจากแบตเตอรี่มาใช้อย่างเดียวไม่มีการประจุไฟฟ้ากลับเข้าไป จึงควรปิดอุปกรณ์ที่ต้องใช้ไฟฟ้าลงทั้งหมด เช่น แอร์ เครื่องเสียง ฯลฯ เพื่อให้มีการ ดึงไฟฟ้าออกจากแบตเตอรี่ช้าและน้อย ทำให้รถยนต์ยังแล่นต่อไปได้ระยะทางมากที่สุด ถ้าการจราจรไม่ติดขัดมาก และแบตเตอรี่ลูกใหญ่พอสมควร ส่วนใหญ่ไปได้เกิน 10 กิโลเมตร เพื่อนำรถยนต์ไปซ่อมแซมระบบไดชาร์จ

    ถ้าสายพานขาด เดาได้ว่าระบบการประจุไฟฟ้าไม่เสีย แต่เมื่อไดชาร์จไม่มีการหมุน เพราะสายพานขาดจึงไม่มีผลิตกระแสไฟฟ้า ต้องดูให้ละเอียดลงไปอีกว่า สายพานเส้นที่ขาดนั้น เกี่ยวข้องกับระบบสำคัญของเครื่องยนต์หรือไม่ ถ้าสายพานเส้นที่ขาด ขับคอมเพรเซอร์แอร์ หรือปั๊มของระบบพวงมาลัยเพาเวอร์ด้วย ก็ยังทนขับแบบร้อน ๆ หรือพวงมาลัยหนัก ๆ ได้อีกหลายกิโลเมตร คล้ายกับกรณีสายไฟฟ้าบกพร่อง

    หากสายพานเส้นที่ขาดต้องใช้ในการขับเคลื่อนปั๊มน้ำในระบบระบายความร้อนด้วย (ส่วนใหญ่เป็นเช่นนั้น) ก็จะสามารถขับต่อไปในระยะทางสั้นมากเพื่อหลบหลีกการจราจร หรืออันตรายได้เท่านั้นโดยต้องดูมาตรวัดความร้อนของเครื่องยนต์ ถ้าความร้อนขึ้นสูงมาก ต้องรีบจอดดับเครื่องยนต์

    กรณีที่ไฟเตือนไม่ขึ้นหลังบิดกุญแจจังหวะแรกต้องตรวจสอบว่าระบบไดชาร์จบกพร่อง หรือหลอดไฟเตือนขาด หากใช้รถยนต์ปกติแล้วมีไฟเตือนสว่างริบหรี่แสดงว่า ระบบการประจุไฟฟ้าไม่เพียงพอต่อการใช้งาน ซึ่งมักจะเกิดขึ้นเมื่อมีการติดตั้งอุปกรณ์ ที่ใช้ไฟฟ้ามากขึ้น

    ทำไมแบตเตอรี่หมด
    ถ้าไดชาร์จปกติแบตเตอรี่ไม่เสื่อม แล้วไม่มีการติดตั้งอุปกรณ์ไฟฟ้าเพิ่มเติมจนกินกระแส ไฟฟ้ามากเกินไปแบตเตอรี่จะไม่มีการหมด นอกจากในเครื่องยนต์รอบเดินเบา ไดชาร์จ ผลิตไฟฟ้าได้น้อยกว่าการใช้อยู่มาก และจอดนิ่งนานหลายชั่วโมง แบตเตอรี่อาจหมดได้ ซึ่งไม่ค่อยพบปัญหานี้ในการใช้งานบนสภาพจราจรปกติ เพราะในการใช้รถยนต์ เมื่อมีการใช้ไฟฟ้าจากสารพัดอุปกรณ์ เช่น เครื่องยนต์แอร์ เครื่องเสียง ไฟฟ้าส่องสว่าง ฯลฯ ก็จะมีไดชาร์จคอยส่งไฟฟ้าที่เหลือจากการใช้เพิ่มกลับเข้าไปสู่แบตเตอรี่อยู่ตลอด

    หากแบตเตอรี่หมด เพราะไดชาร์จผิดปกติ คือผลิตไฟฟ้าไม่เพียงพอ แต่แบตเตอรี่ ยังไม่หมดสภาพก็มีการดึงไฟฟ้าออกจากแบตเตอรี่ไปใช้เรื่อย ๆ ก็แค่ซ่อมแซม ระบบไดชาร์จให้เป็นปกติ ใช้เครื่องประจุแบตเตอรี่ให้เต็ม หรือทำให้เครื่องยนต์ติด แล้วให้ไดชาร์จประจุไฟฟ้าเข้าสู่แบตเตอรี่ (ช้าหน่อย) ก็สามารถใช้งานได้ตามปกติ (มักไม่ค่อยเกิดปัญหานี้) หลังจอดรถยนต์ไว้ ถ้าแบตเตอรี่หมดหรือกระแสไฟฟ้าอ่อนลงมากจนไดสตาร์ท หมุนเครื่งยนต์ไม่ไหว ขณะที่ระบบไดชาร์จและเครื่องยนต์ปกติ แสดงว่า แบตเตอรี่หมดสภาพ

    ถ้าจำเป็นและพอมีกระแสไฟฟ้าในแบตเตอรี่เหลือเพียงพอสำหรับเครื่องยนต์ เช่น ระบบหัวฉีด ปั๊มส่งน้ำมันเชื้อเพลิง ฯลฯ และเป็นระบบเกียร์ธรรมดา ก็สามารถเข็นใส่เกียร์ 2 พอเข็นได้เร็วค่อยถอนคลัตช์พร้อมกดคันเร่ง เครื่องยนต์ก็จะกระตุกติดทำงานได้ หากไม่มีคนช่วยเข็นรวมถึงรถยนต์ระบบเกียร์อัตโนมัติต้องใช้รถยนต์อีกคันที่ติด เครื่องยนต์ไว้หรือยกแบตเตอรี่พ่วงเข้าด้วยกันอย่างระมัดระวังเมื่อเครื่องยนต์สตาร์ทติด ก็เลิกพ่วง แม้แบตเตอรี่เสื่อมหรือเก็บไฟฟ้าไม่อยู่ แต่ถ้าระบบไดชาร์จเป็นปกติ และเครื่องยนต์ทำงานแล้วก็จะสามารถขับต่อเนื่องไปได้ตลอด โดยควรเร่งรอบเครื่องยนต์ ตอนจอดไว้หน่อย เพื่อให้ไดชาร์จผลิตไฟฟ้าได้มากขึ้น แต่ต้องระวังไม่ให้เครื่องยนต์ดับ เพราะเมื่อดับแล้วก็ต้องลุ้นกันอีกครั้งว่า ไฟฟ้าในแบตเตอรี่จะมีพอ สำหรับไดสตาร์ท หมุนเครื่องยนต์อีกครั้งหรือไม่

    นอกจากการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าในกรณีนี้ ด้วยการเข็นกระตุกเครื่องยนต์ หรือการพ่วงแบตเตอรี่แล้ว การแก้ไขถาวรที่ดี คือ เปลี่ยนแบตเตอรี่ใหม่

    เปลี่ยนแบตเตอรี่ลูกใหญ่ แอมป์สูงดีไหม
    เมื่อแบตเตอรี่หมดสภาพหรือมีการติดตั้งอุปกรณ์ไฟฟ้าเพิ่มขึ้นแล้วค่อยคิดถึงคำถามนี้ ถ้าแบตเตอรี่ไม่หมดสภาพในขณะที่ยังไม่ได้เพิ่มอุปกรณ์ไฟฟ้าต่าง ๆ การเปลี่ยนแบเตอรี่ ลูกใหญ่-แอมป์สูง ถือเป็นความสิ้นเปลืองโดยใช่เหตุ เพราะผู้ผลิตรถยนต์ได้คำนวณ และเลือกขนาดของแบตเตอรี่ต่ำพอเหมาะอยู่แล้ว

    หากแบตเตอรี่หมดสภาพแล้วต้องเปลี่ยนใหม่ แล้วมีช่องพอสำหรับแบตเตอรี่ใหญ่ และแบตเตอรี่ลูกเดิมมีแอมป์ไม่สูงนักก็ควรเปลี่ยนลูกใหญ่-แอมป์สูงขึ้น (เสมือนมีถังน้ำสำรองใหญ่ขึ้น) เพราะ 4 เหตุผล คือ
    1. ราคาแพงขึ้นไม่กี่ร้อยบาท
    2. มีกำลังไฟฟ้าสำรองมากขึ้น
    3. มีกำลังไฟฟ้าแรงขึ้น
    4. ไม่ได้ทำให้ไดชาร์จทำงานหนักขึ้นหรือพังเร็ว
    สรุปคือ มีแต่บวกไม่มีลบเลย นอกจากเสียเงินเพิ่มไม่กี่ร้อยบาท

    เครื่องยนต์ยุคใหม่ที่ใช้ระบบหัวฉีดอิเล็กทรอนิกส์ เมื่อปั๊มน้ำมันเชื้อเพลิง และอุปกรณ์อื่นได้กระแสไฟฟ้าที่มีแอมป์สูงย่อมทำงานได้ดีขึ้น

    หากต้องจอดนิ่งเครื่องยนต์เดินเบาบนการจราจรติดขัดนาน ๆ ไดชาร์จได้น้อย ก็มีพลังไฟฟ้าสำรองมากขึ้น รถยนต์ทุกรุ่นอย่าเลือกเปลี่ยนแบตเตอรี่ที่มีแอมป์ต่ำลงจาก มาตรฐาน และถ้ามีโอกาสควรเลือกแบตเตอรี่ลูกใหม่ที่มีแอมป์สูงขึ้นประมาณ 10-30 แอมป์ โดยดูจากตัวเลขที่ระบุบนตัวแบตเตอรี่

    การประจุไฟฟ้าสู่แบตเตอรี่ในครั้งแรกสุดหรือครั้งใด ๆ ไม่ใช่เป็นการประจุจากไดชาร์จ ควรใช้วิธีชาร์จช้า ประมาณ 5-10 ชั่วโมงขึ้นไป เพื่อให้แบตเตอรี่ไม่เสื่อมสภาพง่าย แต่ทางร้านมักใช้วิธีชาร์จเร็วเพื่อรีบบริการลูกค้า และจะทำให้แบตเตอรี่ลูกนั้น มีอายุไม่มาก ต้องเวียนมาเปลี่ยนใหม่เร็วขึ้นเล็กน้อย

    อายุการใช้งานแบตเตอรี่ 1.5-3 ปี แบตเตอรี่ทั่วไปมีอายุการใช้งานประมาณ 1.5-3 ปี เท่านั้น โดยดูได้จากตัวเลขที่ตอกลง บนตัวแบตเตอรี่ ซึ่งส่วนใหญ่ร้านค้าจะมีการตอกเอง โดยปกติ เมื่อเกิน 1.5-2 ปี ก็ถือว่า คุ้มค่าแล้วสำหรับแบตเตอรี่ทั่วไปที่ผลิตในประเทศและจำหน่ายในราคาลูกละ 1,000 กว่าบาท

    เมื่อเกินอายุ 2-2.5 ปี ถ้ากังวลให้ถือโอกาสเปลี่ยนก่อนก็ไม่สิ้นเปลืองมากนัก แบตเตอรี่-แอมป์สูง มักมีขนาดใหญ่ขึ้น จึงควรคำนึงถึงขนาดของฐานที่จะวางลงไป เมื่อแบตเตอรี่ลูกใหญ่-แอมป์สูงขึ้น ไม่จำเป็นต้องยุ่งยากถึงกับดัดแปลงฐานที่จะวาง หากไม่ต้องการแบตเตอรี่ลูกใหญ่-แอมป์สูงมากจริง ๆ เลือกขนาดเท่าที่พอจะวางได้ก็พอ

    ชนิดของแบตเตอรี่
    มี 2 ชนิดหลัก คือ แบตเตอรี่แบบเปียก และแบบแห้ง

    แบบเปียก (ใช้กันส่วนใหญ่) แบ่งเป็น 2 แบบย่อย คือ ต้องเติมและดูแลน้ำกลั่นบ่อย (อย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 ครั้ง) และแบบดูแลไม่บ่อย (MAINTAINANCE FREE) กินน้ำกลั่นน้อยมาก โดยทั้ง 2 แบบจะมีฝาปิดเปิดสำหรับเติมน้ำกลั่น มีอายุการใช้งาน ประมาณ 1.5-3 ปี

    แบบแห้ง ทนทาน ราคาแพง ไม่ต้องเติมน้ำกลั่น มีอายุการใช้งานมากกว่าแบบเปียก ประมาณ 3-6 เท่าหรือประมาณ 5-10 ปี


    ขี้เกลือขั้วแบตเตอรี่
    อาจมีการขึ้นขี้เกลือ ซึ่งช้ามาก และทำให้การส่งกระแสไฟฟ้าด้อยลง การทำความสะอาดที่ดี ต้องถอดขั้วออกและทำความสะอาดทั้งขั้วบนแบตเตอรี่และขั้วบนสายไฟฟ้า พร้อมเคลือบด้วยจาระบีหรือน้ำมันเครื่อง ถ้าไม่มีความรู้เชิงกลไก ใช้น้ำอุ่นราดผ่านก็เพียงพอในระดับหนึ่ง

    ตรวจน้ำกลั่นทุกสัปดาห์
    ควรตรวจระดับน้ำกลั่นในแบตเตอรี่ทุกสัปดาห์ ควรเติมให้ได้ระดับ โดยถ้าแบตเตอรี่ มีผิวด้านข้างใส ก็ส่องดูได้ แต่ถ้าผิวทึบหรือเล็งด้านข้างไม่สะดวก เติมน้ำกลั่นให้ท่วม แถบแผ่นธาตุไว้ประมาณ 1 เซนติเมตร อย่าใช้น้ำกรองหรือใช้น้ำที่ไม่ใช่น้ำกลั่นเติม แบตเตอรี่เพราะจะทำให้แบตเตอรี่มีอายุการใช้งานสั้นลง

    แบตเตอรี่รถยนต์ ไม่แพง เสียยาก ดูแลง่าย แต่อย่ามองข้าม เพราะเป็นพลังไฟฟ้าสำรอง ในรถยนต์ทุกคัน

    วรพล สิงห์เขียวพงศ์
    http://www.elib-online.com/cars/battery_battery1.html


    ---------------------------------------

    เว็บไซต์ตรวจสอบราคาแบตเตอรี่: http://www.carbatt.com

  4. #4

    มาตรฐาน Re: ความรู้เรื่อง Battery ก่อนตัดสินใจเปลี่ยนลูกใหม่

    แล้วผมจะใช้แบบไหนดี ระหว่าง

    1. แบตเตอรี่รถยนต์ชนิด MF ( Maintenance Free )
    แบต(MF)ชนิดไม่กินน้ำกลั่นแต่ก็ต้องเติมน้ำกลั่นถ้าน้ำกลั่นในตัวแบตเตอรี่พร่องไป

    --------------------

    2. แบตเตอรี่รถยนต์ชนิด SMF ( Sealed Maintenance Free )
    ชนิดไม่กินน้ำกลั่นและไม่ต้องเติมนำกลั่นเพราะไม่มีรูให้เติมน้ำกลั่น Sealed 100%

    --------------------

    จะเลือกใช้ยี่ฮ้ออะไรดี ขนาดกี่แอมป์ และราคาประมาณเท่าไหร่

  5. #5
    สมาชิกถาวร TTC-Member
    สมัครเมื่อ
    Aug 2008
    User ID
    3304
    Status
    Offline
    โพส
    74

    มาตรฐาน Re: ความรู้เรื่อง Battery ก่อนตัดสินใจเปลี่ยนลูกใหม่

    ขอบคุณคับ สำหรับความรู้ดีๆ จะได้จำไปปฏิบัติ

  6. #6
    สมาชิกถาวร TTC-Member
    สมัครเมื่อ
    Jan 2008
    User ID
    148
    Status
    Offline
    โพส
    4,023

    มาตรฐาน Re: ความรู้เรื่อง Battery ก่อนตัดสินใจเปลี่ยนลูกใหม่

    ขอบคุณครับ

  7. #7
    nani
    ผู้เยี่ยมชม

    มาตรฐาน Re: ความรู้เรื่อง Battery ก่อนตัดสินใจเปลี่ยนลูกใหม่

    อ้าว แล้วตกลงอย่างไหนดี ของเราครบสองปีพอดี จะได้เตรียมไว้

  8. #8
    สมาชิกถาวร TTC-Member
    สมัครเมื่อ
    May 2008
    User ID
    2712
    Status
    Offline
    โพส
    106

    มาตรฐาน Re: ความรู้เรื่อง Battery ก่อนตัดสินใจเปลี่ยนลูกใหม่

    ความรู้ทั้งนั้น...ขอบคุณครับ

  9. #9
    สมาชิกถาวร TTC-Member
    สมัครเมื่อ
    Jan 2008
    User ID
    957
    Status
    Offline
    โพส
    3,555

    มาตรฐาน Re: ความรู้เรื่อง Battery ก่อนตัดสินใจเปลี่ยนลูกใหม่

    ผมเคยลองใช้ทั้งแบบแห้งและแบบน้ำ สังเกตุว่าแบบน้ำอายุการใช้งานมากกว่าครับ แต่ปัญหาคือต้องหมั่นตรวจเช็คน้ำกลั่นและต้องเติมไฟอย่างน้อย5นาทีทุก1-2สัปดาห์ ในกรณีที่ไม่ได้ใช้รถ เคยใช้ได้ตั้ง5ปี แต่ยังไม่เสียเลย แต่อยากลองเปลี่ยนเป็นแบบแห้ง แบบแห้งใช้ได้ปีกว่าหมดประกันปุ๊บ มีปัญหาปั๊บ งง ใช้ได้ครบ 2 ปีเลยต้องเปลี่ยนลูกใหม่ เซ็งเพราะราคาก็แพงกว่า ใช้ของพานาโซนิค ปล.ที่ใช้5ปีแบบน้ำผมใช้เองกับตัว แต่แบบแห้งปีกว่าผมใช้เองไม่มีปัญหา แต่ยกรถให้น้องไปขับไม่ถึงครึ่งมีแบตมีปัญหาทั้งที่ใช้รถตลอดผมเลย งง ปกติผมไม่ได้สตาสรถเปิดเพลงประมาณ1-2ชั่วโมงต่อวันช่วงเช็ดรถ แล้วค่อยสตาสวอมเครื่องประมาณ5-10นาที รถที่ใช้เป็นมาสด้า 323 5ประตู รุ่นแรก ปี1978ตอนนี้ก็30ปีกว่าแล้ว ยั่งขับอยู่ กรุงเทพและไป-กลับ จ.สุรินทร์ แต่ผมคิดว่าน่าจะอยู่ที่ตัวบุคคลในการใช้รถมากว่าครับ 55555 จบข่าว นี่เป็นประสบการณ์กับตัวเองครับ ขอบคุณครับ

  10. #10
    สมาชิกถาวร TTC-Member
    สมัครเมื่อ
    Jan 2008
    User ID
    957
    Status
    Offline
    โพส
    3,555

    มาตรฐาน Re: ความรู้เรื่อง Battery ก่อนตัดสินใจเปลี่ยนลูกใหม่

    ปล.รถไตรตั้น สามารถใช้แบตขนาด 120 แอม ได้ทุกรุ่นครับ เพราะไดชาต ทำมาใช้ได้ขนาด120แอมร์พอดี แต่ตัวแบตที่ติดมากับรถผม 100 แอม ทางศูนย์เค้าแนะนำมาตั้งแต่ตอนออกรถมาเลยว่าถ้าเปลี่ยนแบต ควรเปลี่ยนเป็นแบบ 120 เพราะจะเก็บไฟได้มากกว่า แล้วไดชาตจะได้ไม่ต้องทำงานบอย อิอิ ที่เหลือเรื่องแบบน้ำและแบบแห้ง ก็ต้องตัดสินใจเองครับ เพราะ ผมคิดว่า อะไรที่มันใช้ได้นานเกินไปมันไม่ค่อยเวิค เหมือนการเปลี่ยนน้ำมันเครื่อง เปลี่น10000โลได้แต่ทางศูนย์เค้าเคยเนะนำว่าไม่ค่อยเวิคเพราะเค้าสอบถามในเรื่องการใช้งาน ผมคิดจะใช้คันนี้ตลอดไม่คิดเปลี่ยน เลยขยันเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องทุก 5000-7000 โล เคยเปลี่ยน 10000โลที นำมันดำและข้นมากเลย เลยสงสารรถครับ แล้วแต่ชอบและสดวกนะครับ ที่แน่ๆ ขอขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆครับ

  11. #11
    สมาชิกถาวร TTC-Member
    สมัครเมื่อ
    Feb 2008
    User ID
    1789
    Status
    Offline
    โพส
    261

    มาตรฐาน Re: ความรู้เรื่อง Battery ก่อนตัดสินใจเปลี่ยนลูกใหม่

    ขอบคุณครับสำหรับข้อมูลดีๆ ได้ความรู้ไปเต็มกระเป๋าเลย

  12. #12
    สมาชิกถาวร TTC-Member
    สมัครเมื่อ
    Jan 2008
    User ID
    725
    Status
    Offline
    โพส
    304

    มาตรฐาน Re: ความรู้เรื่อง Battery ก่อนตัดสินใจเปลี่ยนลูกใหม่

    ขอบคุณในความรู้ที่ให้ครับ
    ทำยังไงที่ร้านขายแบตถึงจะยอมชาร์ตช้าให้ (เป็นคำรำพึง ไม่ใช่คำถาม เพราะคงตอบง่ายแต่ทำยาก) ครับผม

  13. #13
    สมาชิกถาวร TTC-Member
    สมัครเมื่อ
    Jul 2008
    User ID
    3214
    Status
    Offline
    โพส
    22

    มาตรฐาน Re: ความรู้เรื่อง Battery ก่อนตัดสินใจเปลี่ยนลูกใหม่

    ขอบคุณครับ..ได้ความรู้มากเลย

  14. #14
    สมาชิกถาวร TTC-Member
    สมัครเมื่อ
    Jan 2008
    User ID
    131
    Status
    Offline
    โพส
    673

    มาตรฐาน Re: ความรู้เรื่อง Battery ก่อนตัดสินใจเปลี่ยนลูกใหม่

    ของผมออกรถหลัง web master ไม่กี่วันเองครับ 25 วันเองอ่ะ คงใกล้จะต้องเปลี่ยนบ้างแล้วล่ะ

  15. #15
    TritonclubLoburi:เมืองลิง TTC-Member
    สมัครเมื่อ
    Jan 2008
    User ID
    27
    Status
    Offline
    โพส
    7,526

    มาตรฐาน Re: ความรู้เรื่อง Battery ก่อนตัดสินใจเปลี่ยนลูกใหม่

    ขอบคุณครับ สำหรับข้อมูลดีๆ

  16. #16
    สมาชิกถาวร TTC-Member
    สมัครเมื่อ
    Aug 2008
    User ID
    3467
    Status
    Offline
    โพส
    23

    มาตรฐาน Re: ความรู้เรื่อง Battery ก่อนตัดสินใจเปลี่ยนลูกใหม่

    ได้ความรู้มาๆๆ เลยขอบคุณครับ

  17. #17
    bank 9515
    ผู้เยี่ยมชม

    มาตรฐาน Re: ความรู้เรื่อง Battery ก่อนตัดสินใจเปลี่ยนลูกใหม่

    เเนะนำเพิ่มเติมครับ
    ถ้าลืม เปิดเพลงหรือเปิดไฟหน้าทิ้งไว้(ดีที่ไทรทันมีตัวตัดไฟหน้า)
    เเล้วเเบตไฟหมด อย่าเพิ่งเปลี่ยนเเบตใหม่ หรืออย่าปักใจเชื่อช่างบางคนนะครับ
    เพราะอาการเเบบนี้ จะทำให้ค่าน้ำกรดในเเบตเตอรี่เสื่อม เราสามารถเปลี่ยนถ่ายน้ำกรดใหม่ได้เเล้วนำไปชาร์จไฟครับ ลองดูนะครับ
    ปล.สถานการณ์เเบบที่ผมได้กล่าวมานี้อาจจะใช้ได้กับเเบตที่ยังใหม่อยู่ หรือไม่เกินปีครับ
    ส่วนเเบตที่มีอายุมากกว่าปีครึง ถึง2ปีขึ้นไป(ถึงเเม้ตอนเเรกจะใช้งานได้ดีไม่มีปัญหาอะไร เเต่พอลืมเปิดเพลงทึ้งไว้ก็อาจจะทำให้เเบตเสียเลยก็ได้ครับ)ขอบคุณที่ให้ผมได้มีโอกาศเเนะนำพี่ๆนะครับ

  18. #18
    สมาชิกถาวร TTC-Member
    สมัครเมื่อ
    Aug 2008
    User ID
    3452
    Status
    Offline
    โพส
    3,405

    มาตรฐาน Re: ความรู้เรื่อง Battery ก่อนตัดสินใจเปลี่ยนลูกใหม่

    ละเอียดมากครับ...เป็นความรู้ที่ดีมากครับ

  19. #19
    chinjung
    ผู้เยี่ยมชม

    มาตรฐาน Re: ความรู้เรื่อง Battery ก่อนตัดสินใจเปลี่ยนลูกใหม่

    ขอบคุณมากคับ

  20. #20
    ttc 289 TTC-Member
    สมัครเมื่อ
    Jan 2008
    User ID
    915
    Status
    Offline
    โพส
    506

    มาตรฐาน Re: ความรู้เรื่อง Battery ก่อนตัดสินใจเปลี่ยนลูกใหม่

    ดีคับข้อมูลดีๆ

หน้า 1 จากทั้งหมด 3 หน้า 1 2 3 หน้าสุดท้ายหน้าสุดท้าย

ข้อมูลกระทู้

Users Browsing this Thread

ในขณะนี้มี 1 ท่านดูกระทู้อยู่. (0 สมาชิกและ 1 ผู้เยี่ยมชม)

Bookmarks

กฎการโพสข้อความ

  • ท่าน ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ใหม่ได้
  • ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ได้
  • ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ได้
  • ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขข้อความโพสได้
  •  
  • BB code สถานะ เปิด
  • Smilies สถานะ เปิด
  • [IMG] สถานะ เปิด
  • [VIDEO] code is เปิด
  • HTML สถานะ ปิด