แต่นแต๊นนนนน...วันนี้ผมจะแนะนำร้านล้างรถแจ่มๆ ย่าน..แยกมาม่า..ครับ
ตั้งแต่ซื้อรถมา จะครบขวบปีในอีกไม่กี่วันนี้
ผมพึ่งจะเคยเข้าคา(ไม่)แคร์ เป็นครั้งที่สองก็ครั้งนี้แหละ
ด้วยความที่รถลุยผ่านหน้าฝน หอบเอาขี้โคลนบริสุทธิ์จากบ้านนอกชนบท เอาไว้เต็มช่วงล่าง
พอมาวิ่งในเมือง ทำให้อากาศพลศาสตร์ของรถด้อยลงไป
ผมจำจึงต้องดั้นด้นออกตามหาร้านล้างรถในอุดมคติ ดังฝัน (ว่า จะล้างดีเหมือนล้างเอง)
ฤกษ์ดีวันพ่อแห่งชาติ อีกอย่างติดหนี้ "เทาเทา" ที่อุตสาห์ให้โชคลาภก้อยน้ำตกส้มตำ
จำจึงขับรถตระเวนไปเรื่อย จนถึงปั้มเชนแห่งหนึ่งใกล้แยกมาม่า
ด้วยความที่อยากเอาความบริสุทธิ์ออกจากช่วงล่าง เลยต้องหาร้านล้างที่มีตัวยกเพื่ออัดฉีด
เลี้ยวซ้ายเข้าไปในป่ำปั๊ม ข้างหน้ามีรถจอดรอล้างอยู่สามสี่คัน
พนักงานรับรถเดินมาบอก พร้อมสมุดเล่มนึงทำท่าจะจดๆ
"ล้างสีดูดฝุ่น รถพี่ ไซต์ XL 180 ครับ ถ้าล้างช่วงล่าง ห้องเครื่อง รวมเคลือบสี 3xx ครับ"
ผมตกลงล้างเคลือบสี เพราะอยากลอง!
ระหว่างรอคิวล้าง ผมจัดแจงยกกระถางต้นไม้ กระป๋องสเปรย์ ขวดน้ำ ด้ามค้อน สายไฟ เครื่องมือ ฯลฯ ต่างๆ ลงจากรถ (บอกละเอียดเว่อ!)
สักพักพนักงานก็เรียกให้เลื่อนรถไปขึ้นเขียง
จากนั้นผมก็เดินไปรอในห้องรับรอง เอาเทปแล็ต มาต่อสัญญาญวิฟิ๊ ฟรี รหัสพาสเวิด 88988 99899 อะไรนี่แหละ
ผมเช็คเฟสสะบุ๊ค http://www.thaitritonclub.com อินสะตางกำ ไลด์ แทงโก้ ว๊อบแอ๊บแมน Msn สไกด์ E-mail เว็บเกษตรพอเพียงคลับ mgr ฯลฯ โดยใช้เวลาไม่นาน ก็เดินออกมาดูรถ แล้วก็เดินกลับเข้าไปในห้องรับรอง เช็คเฟสสะบุ๊ค http://www.thaitritonclub.com ฯลฯ
แสงสุริยาทำองศาน้อยกว่า (<) แยงตา มาจากประตูทางเข้า
พนักงานโผล่หัวมาเรียกให้ไปขยับรถ
ผมถอยรถเสร็จ ก้มลงมองดูช่วงล่าง เปิดฝากระโปรงดูผลงานการล้าง
โอ้วพระเจ้ากล้วยช่วยทอดยอดกล้วยด้วย
รอยแมลง ด้านหน้ารถ ที่ผมเคยได้กระทำฆาตกรรมระหว่างเดินทาง
ร่องรอยวิญญาณนับหลายยี่สิบ ประจานความเหี้ยมเกรียมไร้มนุษย์ธรรมของผม
ได้กลาดเกลื่อนอยู่เต็ม อีกทั้งคราบขี้นกพญาการเวก ที่มาซ้ำเติมผลกรรมที่ได้กระทำไว้
ยังเป็นกองๆ ประจานอยู่ตรงฝากระโปรง
ใต้ฝากระโปรงเป็นห้องเครื่อง อันพนักงานล้างรถบอกว่าจะล้างให้เอี่ยมอ่อง
ก็มีคราบขี้ฝุ่นบริสุทธิ์ เกาะอยู่ตามฝาสูบ ท่อไอดี สายคันเร่ง ฯลฯ (พอหล่ะ)
โอ้วพระเจ้ากล้วยช่วยทอดยอดกล้วยด้วย ฤาว่าจะเป็นระบบล้างแบบพิเศษอันเรามิเคยรู้ เคยได้พบเห็น
สักพักพนักงานก็เอาท่อเป่าลมมา ฟิ๊ดๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ตามขอบกระจก คิ้วประตู ฯลฯ
จนถึงห้องเครื่อง ส่วนรอบๆ รถ พนักงานหลายคนกำลังยำ...เละ
หลังจากยำกันจนเละทั้งภายนอกและภายใน
พนักงานคนเดิมที่เอาท่อลมมาเป่า แต่ครานี้ที่เป่ามาพร้อมกับกระป๋อง(Ha)อะไรก็ไม่รู้
มาเป่าห้องเครื่อง ละอองน้ำใสๆ เหนียวๆ ถูกพ่นลงไปในห้องเครื่อง
ห้องเครื่องที่เต็มไปด้วยคราบขี้ฝุ่นบริสุทธิ์จากบ้านนอก ถูกเคลือบด้วยน้ำยามหัศจรรย์ ก็พลันดูเงาวับจับใจ จนผมต้องเอามือป้องแสงสะท้อนระยิบระยับเพราะแสบตา!
โอ้วเจ้าแม่! เครื่องดูใหม่เลิศศศศศม๊ากกกกกกกกก แต่..เอ...แล้วคราบขี้ฝุ่นบริสุทธิ์ตูหล่ะ มันไปไหน
อ๊ะเปล่า..มันไม่ได้ไปไหนหรอก มันก็ถูกเคลือบพอกเอาไว้ตามที่เคยเกาะอยู่ตามฝาสูบ ท่อไอดี สายคันเร่ง ฯลฯ (พออีกหล่ะ) นั่นแหละ
ซูมเอ้าออกมา กล้องสอง
ภาพมุมกว้าง ภายนอกรถยนต์ กระป๋องเป่าลม (ไม่รู้กระป๋องเดียวกันหรือเปล่า) ก็ถูกฉีดพ่นรอบๆ ตัวรถอย่างลวกๆ
พนักงานตามมารุมยำอย่างลวกๆ..เละ
ไม่นานพนักงานคนนึงก็บอก "พี่รถเสร็จแล้วนะ"
ผมเดินดูรอบๆ ถ้า เทาเทา มันมีชีวิต
มันคงจะอ่านโพยด่าผม เพราะร่องรอยฆาตกรรมด้านหน้ารถ ก็ถูกเคลือบด้วยน้ำยามหัศจรรย์
ความแรงเงามันบังตา แต่ก็มิอาจบดบังความเหี้ยมเกรียมของผมได้(หรืออย่างไร)
(ไม่อยากร่ายยาว) “เป็นดวงๆ เต็มหน้ารถเลย” ผมหล่ะอยากเช็คอายุคนล้าง ว่ามันร้องเพลงล้างไม่ออกล้างใจเทอจากเค้าไม่ออกระหว่างตอนที่มันล้างรถผมอยู่หรือเปล่า?
ดูรูปผลงานการล้างรถที่ผมถ่ายมาคร่าวๆ ก่อนจะหมดแสง
ไม่อยากบอกว่า กลับมาถึงบ้าน ผมต้องมาขัดสีอีกรอบ ทั้งรอบนอก ขอบประตู หลังคา ฯลฯ
สรุป นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า “ล้างเองดีกว่า” เจ้างัด
(ภาพบางส่วน ซึ่งถ้าจะถ่ายทุกจุด เดี๋ยวจะหาว่าผมละเอียดเว่อ จิตตก วิกลจริตน่าหมั่นไส้เปล่าๆ ครับ อิอิ)
Bookmarks