class ของแอมป์แต่ละประเภท
Class A
คือ เพาเวอร์แอมพ์เน้นคุณภาพเสียงดีมาก ค่าความเพี้ยนน้อย และ เสียงรบกวนน้อย หรือ ต่ำมาก แต่กำลังขับไม่สูงมากนัก
มีขีดจำกัดในการเล่นต่อเนี่อง แต่ปัจจุบันได้พัฒนาให้มีกำลังขับที่มากขึ้น เหมาะสำหรับนักเล่นที่ชอบฟังรายละเอียดของเสียงเป็นพิเศษ
ไม่เน้นพลังเสียง สูญเสียไปกับความร้อน แอมป์ขี้ร้อนๆๆๆๆๆๆ ราคาจะแพงเป็นพิเศษครับ damping factor ดีมากครับ
Class AB
คือเพาเวอร์แอมป์ที่เน้นทั้งกำลังขับ และ คุณภาพเสียงแต่ค่าความเพี้ยน และเสียงกวนมีมากกว่า Class AB ข้อดีมีกำลังขับสูง
และ ขับเล่นได้อย่างต่อเนื่องโดยไม่มีขีดจำกัด ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก และมีลูกเล่นที่มากมาย เหมาะสำหรับนักเล่นที่เน้นทั้ง
รายละเอียดและพลัง ราคาถูกกว่า class a damping factor ดี
Class D
เป็นเพาเวอร์แอมป์ที่มีกำลังขับสูง แน้นพลังอย่างเดียว ส่วนมากผลิตออกมาเป็นแบบโมโนบล๊อก 1 แชลแนล เหมาะสำหรับขับซับวูเฟอร์
และสามารถโหลดเล่นได้ที่ความต้านทานต่ำสุดที่ 1 หรือ 0.5 โอห์ม (ขึ้นอยุ่กับแต่ละยี่ห้อ)ซึ่งหากโหลดความต้านทานได้น้อย
กำลังวัตต์ก็จะเพิ่มมากขึ้น ความเพี๊ยนก็จะมากขึ้นตาม ค่า damping factor [การหยุดอาการสั่นครางของซับ] ต่ำ
Class T
คือเพาเวอร์แอมป์ที่พัฒนามาจาก Class D และ AB โดยแน้นทั้งพลังและเพิ่มรายละเอียด นำมาขับเล่นได้แบบ Full Range 20-20000 Hz เช่น ให้เสียงแบบสเตริโอ และ มีกำลังขับสูงๆที่ 4 โอห์ม
Damping Factor
เป็นความสามารถของเพาเวอร์แอมป์ในการควบคุมการเคลื่อนที่ของลำโพง ค่าแดมปิ้งที่สูงกว่าหมายถึงการให้ความแม่นยำได้ดีกว่า ค่าแดมปิ้งเฟคเตอร์ได้มาจากการหารอิมพีแดนซ์ของลำโพงด้วยอิมพีแดนซ์ที่เอาท์พุทของเพาเวอร์แอมป์ แดมปิ้งเฟคเตอร์ของเพาเวอร์แอมป์จะลดลงเมื่ออิมพีแดนซ์ของลำโพงต่ำลง นั่นหมายถึงว่าเพาเวอร์แอมป์ที่ทำงานกับอิมพีแดนซ์ 4 โอห์มจะให้เสียงเบสได้แน่นหนักกว่า 2 โอห์ม
Bookmarks