ผมมีเหตุการณ์ที่อยากจะเล่าให้เพื่อนๆ ฟัง
เมื่อซักประมาณสัปดาห์ที่ 2 ของเดือนธันวาคม ผมกำลังขับเจ้าอ้วนดำของผมกลับบ้าน บนถนนพระราม 2 ซึ่งก็ใช้ความเร็วประมาณ 110 - 120 กม. ตั้งแต่บริเวณทางลงดาวคะนองมาเรื่อยๆ เพื่อมุงหน้าไป Lotus พระราม 2 โดยขับเลนขวามาตลอด และมาชลอความเร็วหลังจากลอดใต้ทางข้ามหัวกระบือและพยายามเปลี่ยนเลนเข้าด้านซ้าย ซึ่งก่อนจะเปลี่ยนผมก็มองกระจกข้างแล้วทั้งซ้ายและขวา แล้วว่าไม่มีรถตามมา ซึ่งพอหลังจากขับเข้าเลนซ้ายไป 1 ช่อง แล้วปรากฎว่ามีรถเก่งสีดำ (ไม่อยากจะระบุยี่ห้อ ทะเบียนจำไม่ได้) ขับแซงขวาแล้วปาดเข้าซ้ายด้านหน้าและเหยียบเบรคอย่างกระชันชิด แล้วก็ขับเร่งหนีออกไป ด้วยความโมโห ผมจึงขับไล่ตาม พร้อมทั้งยกไฟสูงค้างตลอดใส่รถคันดังกล่าว เค้าเองก็พยายามเบรคอย่างแรงอีกครั้ง แล้วก็เร่งหนีอีกครั้ง
หลังจากนั้น ก็มีกระดาษทิชชูโยนออกมาจากตัวรถคันนี้อีก ผมก็โมโหมากแต่แฟนนั่งอยู่ข้างๆ ก็บอกว่าอยากไปแลกกับมันเลย มันไม่คุ้ม ก็เลยต้องระงับความโกรธ แล้วพยายามเปลี่ยนเลนเข้าซ้ายมาเรื่อยๆ แต่กระนั้น ไอ้เจ้าเก่งดำคันเดิมมันก็เปลี่ยนเลนตาม เหมือนกับมันจะชลอดูว่าผมจะไปไหนต่อ ซึ่งระหว่างนั้นมันก็ใกล้เข้าทางแยกออกทางคู่ขนานเพื่อเข้า Lotus แล้ว ผมก็พยายามขับกักเอาไว้ซ้ายสุด เพื่อให้เก่งดำขับเลยทางเข้าแยก Lotus แล้วผมก็ชิดซ้ายเข้าทางขนานไปเลย ปล่อยให้เก่งดำขับเลยไป
เมื่อพ้นจากตรงนั้นผมก็เลี้ยวเข้า Lotus เลย และพยามยามมองด้วยว่าเจ้าเก่งดำขับไปไหนต่อ ซึ่งผมก็ไม่เห็นแล้ว เสร็จแล้วไปนั่งนึกทบทวนดู ก็นึกไม่ออกว่าไปขับปาด หรือเสียมารยาท ตั้งแต่เมื่อไหร คิดได้อีกอย่างคือ อาจจะมี Order จากเมืองนอกว่าอยากได้รถแบบผมมั้ง เลยตั้งใจขับปาด แล้วให้ผมตามไปหาเรื่อง หรือประสบอุบัติเหตุ แล้วจะได้ขโมยรถไป
สรุปแล้ว เหตุการณ์นี้ทำให้ผมคิดได้ว่าไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นมาจากการขับรถของเรา ซึ่งเราอาจจะไปเสียมารยาท แล้วเค้ามาเอาคืน หรือพวกมิจฉาชีพที่หวังจะขโมยรถของเรา หากเรามีสติ และพยายามอดกลั้น เหตุการณ์ที่ไม่ดีก็จะไม่เกิดขึ้น
Bookmarks